การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่วิธีหนึ่งคือการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง ซึ่งการอ่านออกเสียงให้ลูกฟังเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีในด้านการฟัง การพูดของลูกน้อย เด็ก ๆ จะมีคำศัพท์ในหัวเพิ่มมากขึ้นและสร้างจินตนาการให้เจ้าตัวน้อยจากน้ำเสียงและภาพการ์ตูนในหนังสือนิทาน
เทคนิคที่ปลูกฟังให้ลูกรักการอ่าน สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- อ่านนิทานให้ลูกฟังทุกคืนเป็นกิจวัตร
ทำให้ลูกน้อยรู้สึกว่าการอ่านนิทานเป็นเรื่องสนุกที่จะเกิดขึ้นทุกคืน โดยสามารถเริ่มอ่านตั้งแต่ในท้องแม่ ให้ลูกน้อยได้ชินกับการได้ยินเสียงของพ่อแม่เมื่ออกมาจากท้องแม่ก็จะชิน และเมื่อได้ยินเสียงเขาก็จะสงบลง อาจจะเลือกหนังสือที่มีสีสัน เพื่อให้เกิดพัฒนาการทางการมองเห็น เมื่ออ่านออกเสียงคุณพ่อคุณแม่ควรทำเสียงสูงต่ำ เพื่อสร้างความสนใจให้กับเด็ก ๆ
- ทำตัวอย่างให้ลูกเห็น
พยายามไม่จับเครื่องมือสื่อสาร เช่น iPad, iPhone พวกหน้าจอสมาร์ทโฟนทำให้เด็ก ๆ เลียนแบบต้องการเล่นตาม ดังนั้นเมื่อเราอยู่ต่อหน้าลูกควรละเว้นจากหน้าจอช่วยคราว ให้เหลือพียงการถ่ายรูป พยายามเอาโทรศัพท์ห่างลูกเข้าไว้ จะเห็นได้จากในยุคปัจจุบันพ่อแม่ติดหน้าจอกันมาก เด็ก ๆ เลยเลียนแบบตาม อายุไม่ถึง 1 ชวบเด็ก ๆ สามารถใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอ กดปุ่ม home ของ iPhone กันได้แล้ว การเลียนแบบพฤติกรรมสำคัญมากจริง ๆ จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ผู้ใหญ่กระทำให้เขาเห็น
- พาเขาเข้าร้านหนังสือ
สร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก ๆ อาจจะสร้างกิจวัตร เดือนละ 1 ครั้งให้เขาไปเลือกหนังสือด้วยตัวเขาเอง 1 เล่ม โดยพาเขาเข้าร้านหนังสือ ให้เขาได้ตัดสินใจเลือกเอง ถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อยเข้าโรงเรียน อาจจะให้เขาสะสมดาวเด็กดี ถ้าได้ครบ 10 ดวง ให้หนังสือ 1 เล่ม ที่เขาอยากได้ การพาเขาเข้าร้านหนังสือทำให้เขาได้เปิดโลกกว้างเสริมความมั่นใจในการเลือกตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง
- สร้างอิสระให้เขาได้อ่านหนังสือด้วยตัวเอง
สำหรับเด็กเล็ก ๆ ประมาณ 1 ขวบ หรือน้อยกว่านั้น เมื่อเราอ่านหนังสือให้เขาฟังเขาจะเปิดหนังสือเองอย่างรวดเร็ว เราอย่าไปดุเขา ให้เขาเปิดไป คุณพ่อคุณแม่ค่อย ๆ พูดอ่านให้ฟังเรื่องราวไปเรื่อย ๆ เมื่อเขามีอิสระในการเปิดหรือสัมผัสหนังสือ เขาจะเริ่มรักการอ่าน ค่อย ๆ อ่านมากขึ้น บางทีเด็ก ๆ อาจจะอ่านหนังสือกลับหัวให้ปล่อยเขาไปเพราะเขายังเล็กดูภาพและตัวการ์ตูน สร้างการเรียนรู้ที่สนุกเด็ก ๆ ก็จะรู้สึกไม่ถูกบังคับและมีความสุขไปด้วย
นอกจากนี้เป็นที่รู้กันดีว่าหนังสือที่ดีมีคุณภาพนั้นมีราคาแพง เนื่องจากคุณภาพการพิมพ์ (เป็นหมึกปลอดสารพิษ ส่วนใหญ่มักพิมพ์จากหมึกถั่วเหลือง) และมีการลบมุมของมนเพื่อไม่ได้บาดมือเด็ก ดังนั้นจึงมีต้นทุนสูงกว่าหนังสือทั่วไป ราคาหนังสือเด็กคุณภาพดีแต่ละเล่มไม่ต่ำกว่า 300 บาท คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเนื้อหาให้เด็ก ๆ ก่อนซื้อให้ดี เพราะปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจน่าเป็นห่วง เราต้องทำงานหนักเพื่อลูก ๆ นอกเหนือจากค่าหนังสือแล้วยังมีค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ค่าเสื้อผ้า ค่ากินอยู่อีกมากมาย
ดังนั้นเราขอนำเสนอการหาหนังสือในยุคประหยัด เพื่อให้ประหยัดกระเป๋าคุณพ่อคุณแม่ดังนี้
- ติดตามเทศกาลหนังสือ
ตามงานเทศกาล (งานแฟร์) หนังสือมักจะรวมสำนักพิมพ์คุณภาพไว้ให้เราเลือกเป็นจำนวนมากพร้อมกับราคาพิเศษ ทำให้ประหยัดกระเป๋าเงินคุณพ่อคุณแม่ไปได้มาก ยกตัวอย่างเช่นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จัดเป็นประจำที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานBig Bad Wolf ที่อิมแพ็คอรีนาเมืองทองธานี เป็นต้น
- รวมกลุ่มแชร์หนังสือกันอ่าน
อาจจะมาจากญาติพี่น้องที่มีลูกวัยใกล้ ๆ กัน รวมถึงลูกของเพื่อน ๆ มีหนังสืออะไรที่เคยอ่านแล้วเบื่ออยากส่งต่อ อีกคนน่าจะอยากอ่านต่อ หนังสือเหล่านี้ค่อนข้างมีคุณภาพเพราะได้รับการคัดสรรมาแล้วจากคุณพ่อคุณแม่ หรือเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันอาจจะแบ่งหนังสือกันอ่าน เมื่อลูกเขามาเที่ยวบ้านเราก็สามารถมาเลือกได้ 1 เล่ม หรือ เมื่อลูกเราไปเที่ยวบ้านเขาก็สามารถเลือกหนังสือแลกกันได้ 1 เล่ม
- ซื้อหนังสือผ่านจากสำนักพิมพ์โดยตรง
เมื่อเราติดต่อโดยตรงไม่ผ่านตัวกลาง ก็จะมีราคาถูก แต่อาจจะต้องวางแผนซื้อหลายเล่มหน่อย เพื่อให้ได้ราคาพิเศษ เช่นอย่างต่ำ 3 – 6 เล่ม เป็นอย่างน้อย และอาจต่อราคาเพิ่มเติมได้
การอ่านเป็นรากฐานที่ดีที่เราสามารถสร้างให้กับเด็ก ๆ ได้ เพราะการอ่านสร้างสมาธิและทำให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการใช้ภาษา เมื่อเขาไปโรงเรียนก็จะได้เรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น เราควรปลูกฝังให้เด็ก ๆ ให้รักการอ่านซึ่งทำให้เด็ก ๆ รักการเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกด้วย
ผู้เขียน: