กองทุนรวม คืออะไร เริ่มลงทุนยังไง พร้อมชี้เป้ากองทุนรวมที่น่าสนใจในปี 2566
เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังกันแล้ว สำหรับสายลงทุนไม่ว่าจะหุ้น ทอง หรือกองทุน ที่บอกได้เลยว่าเป็นปีที่ตลาดค่อนข้างผันผวน ทั้งการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งทะยาน ซึ่งไม่ได้แค่ในไทยแต่กระทบทั่วโลก ซึ่งเหล่านักลงทุนต่างวิเคราะห์ถึงความกังวลของเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม หนึ่งรูปแบบการลงทุนที่ยังมีแนวโน้มที่ดีนั่นคือ กองทุนรวม เราจะพาไปดูกันว่า กองทุนรวมคืออะไร เริ่มลงทุนยังไง ทำไมถึงควรลงทุน พร้อมชี้เป้า 10 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนดี
กองทุนรวม คืออะไร เริ่มลงทุนยังไง?
กองทุนรวม ถือเป็นการระดมเงินทุนที่มาจากนักลงทุนหลาย ๆ ราย จนรวมมาเป็นเงินทุนก้อนใหญ่ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โดยมีหน้าที่ระดมทุนเพื่อนำกองทุนไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และนำเงินกองทุนนั้นไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุในหนังสือชี้ชวน โดยนักลงทุนแต่ละรายจะได้รับจัดสรร “หน่วยลงทุน” เพื่อแสดงสถานะความเป็นเจ้าของเงินที่ลงทุนไป หรือที่เรียกว่า “ผู้ถือหน่วยลงทุน”
ประเภทของกองทุนรวม
- กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
- กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
- กองทุนรวมผสม (Mixed Fund), กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) หรือ กองทุนรวมหุ้น
- กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF)
- กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)
- กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment)
ความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุนรวม
- มีนโยบายสำหรับการลงทุนที่หลากหลาย โดยสามารถใช้เครื่องมือในการลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงและเป้าหมายทางการเงิน
- มีมืออาชีพที่มีองค์ความรู้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่คอยบริหารจัดการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน
- กระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนหุ้นและยังใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก
- เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนที่สามารถติดตามการลงทุนผ่านข้อมูลและการรายงานสถานการณ์การลงทุนที่บลจ.จัดให้สม่ำเสมอ
- กองทุนบางประเภทช่วยให้คุณรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่เป็นไปตามเงื่อนไขของสรรพากร
10 กองทุน ให้ผลตอบแทนดี มิ.ย. 2566
ต่อมาจะเป็น 10 อันดับกองทุนให้ผลตอบแทนดีประจำมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีกองทุนไหนน่าสนใจกันบ้าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้คุณได้นำไปวางแผนซื้อกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- TMB-ES-Internet
-
- ลงทุนในกลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 12.43%**
- SCBNEXT (A)
-
- ลงทุนในกลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 12.09%**
- Principal VNEQ-A
-
- ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีธุรกิจในเวียดนาม
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 11.06%**
- SCBINNO (A)
-
- ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ หรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 10.12%**
- T-ES-GINNO
-
- ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้อง หรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 10.05%**
- KT-VIEWNAM-A
-
- ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้อง หรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 10.04%**
- TMB-ES-GINNO
-
- ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้อง หรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 10.04%**
- KFINNO-A
-
- ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้อง หรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 9.81%**
- ONE-GECOM
-
- ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ช (E-Commerce)
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 9.68%**
- K-VIEWNAM
-
- ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีธุรกิจในเวียดนาม
- ความเสี่ยงระดับ 6
- อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง (1 เดือน) **+ 9.62%**
5 ขั้นตอนการเลือกซื้อกองทุน
ทิ้งท้ายด้วย 5 ขั้นตอนการเลือกซื้อกองทุนที่จะช่วยให้คุณได้ประเมินตนเองเบื้องต้นจนนำไปสู่การตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อกองทุนได้ด้วยตนเอง
- สำรวจตนเองก่อน
มาเริ่มต้นสำรวจตนเองกันก่อนว่าเราเหมาะกับกองทุนประเภทไหน โดยจะต้องเข้าใจในลักษณะของสินทรัพย์ที่ควรนำมาหยิบมาเปรียบเทียบว่าเราเหมาะกับเทรนด์การลงทุนแบบไหนที่สามารถเริ่มต้นศึกษาเรื่องกองทุนได้ที่ SET e-Learning
- รู้จักกับ Fund Fact Sheet
เมื่อพอเข้าใจเบื้องต้นแล้วว่ากองทุนคืออะไรและสำรวจตัวเองแล้วพบว่าอยากซื้อกองทุน เช่น กองทุนเกี่ยวกับเทคเพราะมองเห็นแนวโน้มจากการเติบโตของเทคโนโลยีที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันและมองเห็นโอกาสที่เติบโตได้อีกซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมจาก Fund Fact Sheet ซึ่งเป็นหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนรวมเอาไว้ที่จะบอกเราว่าเราลงทุนไปกับอะไร ขนาดกองทุน จ่ายปันผล รวมถึงเงินลงทุนขั้นต่ำซื้อได้ครั้งละเท่าไร รวมถึงพวกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะทำให้เรากองทุนที่เราจะซื้อได้มากขึ้น แต่อาจจะใช้ระยะเวลาในช่วงแรกสักหน่อย
- เลือกกองที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
โดยอาศัยการดูผลตอบแทนย้อนหลังซึ่งเป็นข้อมูลที่ดูได้จาก Fund Fact Sheet ที่จะช่วยบอกได้ว่าที่ผ่านเข้าราคาการซื้อขายมีแนวโน้มเป็นอย่างไรซึ่งควรดูย้อนหลังสัก 3 – 5 ปี เพราะบางกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีมากอาจจะอยู่ได้แค่ 1 ปีจึงอาจจะสรุปไม่ได้ทันทีว่าดีจริงหรือไม่
- ทุกกองทุนมีความเสี่ยง
เป็นที่รู้กันดีว่าทุกกองทุนมีความเสี่ยงซึ่งเราสามารถวัดค่าความเสี่ยงได้จากค่า S.D. หรือ Standard Deviation ซึ่งถ้าหากค่ายิ่งสูงยิ่งแปลว่ายิ่งเสี่ยง และสามารถเทียบดูความเสี่ยงได้จาก Sharpe Ratio ที่ยิ่งสูงยิ่งดี โดยหากคุณมีกองทุนตัวเดียวกันที่ชอบมากกว่าหนึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบเพื่อเลือกตัวที่ดีจากค่า Sharpe Ratio สูงกว่า
- มีการตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง
อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปีควรทำการตรวจสอบและมีการติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนที่เราเลือกลงทุนนั้นมีภาพรวมที่ดีและยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจจะอิงจากการมาตรฐานการดำเนินงาน (Benchmark)” และกองทุนคู่แข่งอยู่เสมอ และหากกองทุนมีแนวโน้มลดลงก็อย่าขายทิ้งเลยให้ไปดูการวิเคราะห์เชิงลึกก่อนว่าเกิดอะไรขึ่นซึ่งอาจจะมาจากปัจจัยระยะสั้น เช่น การเมือง ที่อาจจะกลับมาฟื้นตัวเพื่อเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง แต่ถ้าหากแนวโน้มไม่ดีก็แนะนำให้ขายทิ้งแล้วหากองทุนตัวใหม่
อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงพอจะได้คำตอบกันแล้วว่า กองทุนรวมคืออะไร เริ่มลงทุนอย่างไร? โดยสิ่งที่ขอเน้นย้ำทุก ๆ ครั้ง ก็คือการลงทุนมีความเสี่ยง และทุก ๆ ความเสี่ยงสามารถสร้างโอกาสทางการเงินได้ แต่เราจะต้องไม่นำอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง แต่ควรดำเนินการลงทุนโดยอาศัยการศึกษา ประสบการณ์ และการพยายามทำความเข้าใจ จึงจะเกิดผลที่ดีได้