ภาษี สังคม คืออะไร สำคัญยังไง ค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคมที่วัยทำงานต้องรู้
ใครที่ยังไม่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่อาจจะยังไม่รู้ว่า ภาษี สังคม คืออะไร สำคัญยังไง? แต่เมื่อคุณก้าวเข้าสู่สังคมทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มตัว คุณก็จะได้ทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าภาษีสังคมแทบจะในทันที แน่นอนว่าในช่วงแรกคนทำงานใหม่ ๆ คงจะสงสัยไม่น้อยเลยทีเดียวว่าคืออะไร มีความสำคัญมากแค่ไหน และสุดท้ายเลยคือไม่จ่ายได้ไหม เพราะภาษีสังคมไม่ใช่ภาษีที่กำหนดตามกฎหมาย แต่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในรายจ่ายที่จำเป็นได้ในบางครั้ง วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าภาษีสังคมกัน
ภาษีสังคม คืออะไร สำคัญยังไง ทำไมเราต้องจ่าย?
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทุกครั้งในการเข้าสังคมต้องใช้เงินเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปกินข้าว ไปเที่ยวคาเฟ่ หรือแม้แต่ไปร่วมงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะ งานแต่งงาน งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ งานวันเกิด งานรับปริญญา หรืองานศพ
ภาษีสังคม จึงหมายถึง ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าสังคม และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นนั่นเอง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อเราก้าวเข้าสู่วัยทำงาน
ต้องยอมรับกันตามตรงว่าหากเราเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบในที่ทำงาน ก็คงทำให้ทุกอย่างยากขึ้นกว่าเดิม จะทำอะไรก็ไม่สะดวกสบายสักเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับคนที่เข้าสังคมเก่ง หรือคนที่มีเส้นสาย จะติดต่อทำอะไรก็สะดวกกว่ากันเยอะ คนวัยทำงานส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับการเข้าสังคมนั่นเอง
บางทีต่อให้จะไม่ใช่คนสนิท แต่ถ้าชวนไปงานแต่ง เราก็ต้องใส่ซองให้ เดี๋ยวนี้จะใส่ครั้งละไม่กี่ร้อยบาทก็ไม่ได้ เพราะเงินที่ใส่ไปในซองจะเป็นตัวชี้ชะตาหน้าตาในสังคมเราอีก ถ้าเป็นเด็กจบใหม่ใส่เงิน 300 บาทยังไม่น่าเกลียด แต่ถ้าทำงานมาสักพักแล้วก็ต้องอาจจ่ายถึงหลักพันบาท และทั้งหมดที่ว่ามานี้คือสิ่งที่เรียกว่าภาษีสังคม
สำหรับเด็กจบใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่สังคมคนทำงาน นอกจากจะต้องวางแผนค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้ว ภาษีสังคมเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องวางแผนด้วยเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นจุดบอดทางการเงิน และอาจทำให้เราขาดสภาพคล่องในบางเดือนได้
ลองจินตนาการดูว่าคุณได้รับเงินเดือนเดือนละ 18,000 บาท แต่ในเดือนนั้นอยู่ดี ๆ ญาติของหัวหน้าก็เสียชีวิต ต้องใส่ซองแล้วไม่ต่ำกว่า 300 บาท เพื่อนร่วมงานดันมาแต่งงานในเดือนนี้ซะอย่างนั้น โดนไปอีก 500 บาท เท่ากับว่าในเดือนนั้นเรามีค่าใช้จ่ายที่อยู่ดี ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาถึง 800 บาทเลยทีเดียว
นอกจากจะต้องวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายภาษีสังคมแล้ว บางครั้งเรายังอาจจะต้องรู้จักการปฏิเสธด้วย พร้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกรงใจมากจนเกินไป หรือบางคนอาจจะออกในลักษณะใจป้ำมากเกินไป มันก็อาจจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพการเงินของตัวเองได้เหมือนกัน เราต้องรู้จักการพิจารณา และชั่งน้ำหนักว่างานไหนควรไป งานไหนไม่จำเป็นต้องไปถึงขนาดนั้น มันก็จะช่วยให้เราสามารถประหยัดภาษีสังคมได้มากขึ้นกว่าเดิม
เปิดเทคนิคหลีกเลี่ยงภาษีสังคมสำหรับวัยทำงานมือใหม่ ช่วยให้ประหยัดขึ้นกว่าเดิม
เพื่อน ๆ คนไหนที่เพิ่งก้าวสู่วัยทำงาน เพิ่งรู้จักกับภาษีสังคมได้หมาดๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของมันเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าจะรับมือกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังไงดี เราก็มีวิธีการรับมือด้วยเทคนิคหลีกเลี่ยงภาษีสังคมสำหรับคนทำงานมือใหม่ ที่จะช่วยให้เราประหยัดขึ้นกว่าเดิม และไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนี้
- ปฏิเสธให้เป็น
สิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนมือใหม่หลายคนต้องเสียภาษีสังคมมากเกินกว่าเหตุ นั่นก็เป็นเพราะว่าเพิ่งเข้ามาทำงาน ทำให้บางครั้งก็เกรงใจ ไม่อยากปฏิเสธเพื่อนร่วมงาน หรือรุ่นพี่ แต่เราอยากจะแนะนำให้พิจารณาว่าคนที่เข้ามาชวนเราไปทำกิจกรรมสังคมนั้นเป็นคนที่เราต้องเห็นด้วยจริงๆ หรือเปล่า หรือเกี่ยวข้องในงานแบบไกลๆ ไม่ต้องสนิทขนาดนั้นก็ได้ เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถปฏิเสธได้ง่ายขึ้น ขอเพียงแค่ปฏิเสธให้เป็น มีเหตุผล พูดอย่างนุ่มนวล เพียงเท่านี้ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานแล้ว
- ห้ามหน้าใหญ่ใจโต
ตรงข้ามกับคนขี้เกรงใจคือคนที่หน้าใหญ่ใจโต คุณอาจจะเป็นคนใจๆ ให้ใจทุกคนอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องใช้จ่ายอย่างพอดีเหมือนกัน ถ้าไม่ต้องการให้เกิดปัญหา เราก็ต้องพิจารณาเงินในการจ่ายภาษีสังคมให้เหมาะสมกับรายรับของตนเอง ไม่ใช่ว่าตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ไปงานแต่งหัวหน้า จัดเงินใส่ซองไปเลยหลักพัน เพราะมันอาจจะทำให้คุณเดือดร้อนทางการเงินในภายหลังได้ ถ้าไม่มี เราขอแนะนำว่าให้พูดไปตรงๆ เลยว่าสามารถจ่ายได้เท่าที่มีเท่านั้น หรืออาจจะปฏิเสธไปก่อนก็ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้คนอื่นยอมรับ
- ทำบุญแบบลงแรง
สำหรับใครที่เจอซองผ้าป่า ซองกฐิน หรือการชวนไปร่วมงานบุญ แจกข้าวโรงทาน ถ้าอยากจะประหยัดเงิน การทำบุญไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายเป็นเงินอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรายังสามารถทำบุญในรูปแบบการลงแรงได้ด้วยเหมือนกัน อย่างเช่น ถ้าเพื่อนที่ทำงานชวนกันเปิดโรงทาน คุณก็เสนอตัวไปจองสถานที่ ตั้งโต๊ะ กางเต็นท์ รับหน้าที่คอยแจกอาหารให้คนที่มารับของก็ได้ หรือถ้าเป็นการบริจาคของ ก็ลองอาสาเป็นคนขับรถขนของเอาไปให้ผู้รับบริจาคก็ได้เหมือนกัน
- ตั้งเป้า และจดบันทึก
สิ่งที่ทำให้ภาษีสังคมกลายเป็นกับหลักทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนมือใหม่ นั่นก็คือการที่คุณไม่เคยเผชิญกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มาก่อนตอนที่ยังเป็นเด็ก เมื่อรู้ว่ามันมี สิ่งที่เราต้องทำก็คือการวางแผนค่าใช้จ่าย ว่าเราจะจ่ายภาษีสังคมเดือนละเท่าไหร่ และควรวางแผนควบคู่ไปกับเงินออมด้วย เมื่อมีการใช้จ่ายเงินในก้อนนี้ ให้เราจดบันทึก และพยายามบริหารไม่ให้ภาษีสังคมเกินงบที่ตั้งเอาไว้ในแต่ละเดือน เพียงเท่านี้ ภาษีสังคมก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางการเงินของเราแล้ว
สรุปแล้ว ภาษี สังคม คืออะไร สำคัญยังไง มันคือเงินที่เราต้องจ่ายไปกับการเข้าสังคม หรือการรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในวัยทำงาน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็สามารถวางแผน และบริหารจัดการภาษีสังคมได้เหมือนกัน เพียงแต่เราอาจจะต้องปรับพฤติกรรม หรือนิสัยบางอย่าง เพื่อที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงโดยที่ไม่กระทบกับความสัมพันธ์ เราขอเป็นกำลังใจให้กับเหล่ามนุษย์เงินเดือนมือใหม่ทุกคนในการรับมือกับภาษีสังคม และเติบโตเป็นมนุษย์เงินเดือนสายแข็งอย่างงดงาม