ลงทุนอะไรดี ปี 67 ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ พร้อมคาดการณ์แนวโน้มการลงทุน
ช่วงสิ้นปีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงมีการวางแผนทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองในปีหน้า หลายคนอาจกำลังมองหาการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสร้างเงินเก็บ ให้มีเงินก้อน แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าเทรนการลงทุนในปีหน้าเป็นอย่างไรควรเลือกลงทุนอะไรดี วันนี้เราจะมาแนะนำว่า ลงทุนอะไรดีปี 67 ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ พร้อมคาดการณ์แนวโน้มการลงทุน ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง ให้เพื่อน ๆ ได้เอาไปเป็นไอเดียตัดสินใจในปีหน้ากัน
เทรนด์ธุรกิจ และการลงทุน ปี 67
-
Technology and Innovation
ที่เน้นไปทางการช่วยลดพลังงาน หรือลดการปล่อยมลพิษที่หากสังเกตตะเห็นได้ชัดว่ามีการส่งเสริมเรื่องรถยนต์พลลังงานไฟฟ้าผ่านมาตรการที่ให้เงินอุดหนุน หรือเงินสนับสนุนต่าง ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ที่มองหาธุรกิจที่เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ อาทิ แบตเตอรี่ เหล็ก หรือกลุ่มนวัตกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงกลุ่ม Smart home ที่เหมาะกับท่านที่มีความรู้และมีเงินลงทุนผ่านการออกแบบ เช่น Home Automation เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ หรือพกโซล่าร์เซลล์ เป็นต้น
-
Eco
ธุรกิจในอนาคตจะเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกโดยการลด ละ เลิกขยะที่ทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วหันมาใช้สิ่งของรักษ์โลกแทน เช่น กล่องใส่อาหารรักษ์โลก ธุรกิจรีไซเคิล ร้านขายกระเป๋าผ้า หรือแพ็คเกจจิ้งรักษ์โลกที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้งานและยังสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม
-
Content Creator
เพราะปัจจุบันคนให้ความสำคัญกับการรีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่าการโฆษณา กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์สื่อบนสังคมออนไลน์จึงมาแรงมาก เช่น Youtuber, Reviewer, Blogger, Tiktok Creator มีผู้ติดตามจนทำให้เกิดการจ้างงานจากแบรนด์ต่าง ๆ หรือจะเปิดสตูดิโอเพื่อใช้ในการถ่ายภาพของแบรนด์ต่าง ๆ หรือจะเปิดบริการรับผลิตสื่อก็ได้เช่นเดียวกัน
แนะนำ ลงทุนอะไรดี ปี 67
-
เงินฝากดิจิทัล
จะเป็นประเภทสินทรัพย์การลงทุนความเสี่ยงต่ำที่สุดโดยมีหลายรูปแบบทั้งเงินฝากแบบกระแสรายวัน เงินฝากประจำและเงินฝากดิจิทัลซึ่งให้ดอกเบี้ยแน่นอนและได้รับความคุ้มครอง 1 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ดอกเบี้ยเงินฝากจะอยู่ที่ 1.5 – 6% ต่อปี ซึ่งมีทั้งจ่ายครั้งเดียว หรือสองครั้งต่อปีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ถึงแม้อาจจะได้ผลตอบแทนไม่เยอะมาก แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะสูญเสียเงินต้นไป
-
พันธบัตรรัฐบาล
เป็นตราสารหรนี้ที่ออกด้วยหน่วยงานของรัฐบาลซึ่งผู้ที่จัดซื้อพันธบัตรจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้หน่วยงานของรัฐที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้น โดยจะกำหนดอายุพันธบัตรในการซื้อเป็นจำนวนหน่วยและระยะเวลา เช่น พันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี โดยเฉลี่ยดอกเบี้ยที่จะได้รับประมาณ 0.55% ต่อปี และเราจะต้องถือให้ครบจนครบอายุการจึงจะสามารถถอนเงินต้นพร้อมรับดอกเบี้ยทั้งหมดได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
-
กองทุนรวม
จะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่นิยมไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม กองทุนตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพและอื่น ๆ ที่มีนโยบายในการเลือกลงทุนให้เลือกหลากหลาย ซึ่งผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับนโยบายของกองทุน อาจมาในรูปแบบของกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล หรือหากไม่มีการจ่ายปันผล นักลงทุนจะซื้อเพื่อเก็งกำไรก็ได้
-
ลงทุนในหุ้น
สำหรับใครที่ไม่ชอบการลงทุนที่ต้องลงแรงหรือใช้เวลามากนัก การลงทุนในหุ้นหรือเล่นหุ้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจการลงทุนในหุ้นก็เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง เราจึงแนะนำให้ หาความรู้เกี่ยวกับการอ่านกราฟหรือดูแนวโน้มให้ดี เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างกำไรในการลงทุนและลดความเสี่ยงให้มากที่สุด อาจจะเริ่มจากการกระจายการลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัวก่อนก็ได้ เพื่อให้เห็นแนวโน้มการขึ้น – ลง ของราคาหุ้นในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้วจึงค่อย ๆ ต่อยอดการลงทุนจากเงินที่มีต่อไป
-
ทองคำ
จะเป็นประเภทสินทรัพย์การลงทุนระดับความปานกลางจากความผันผวนของราคาซึ่งอาจมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเมือง สงคราม หรือค่าเงินที่แข็งตัว โดยจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วและเป็นเครื่องมือสะสมความมั่งคั่งที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 5 – 9 %
-
อสังหาริมทรัพย์
เป็นสินทรัพย์ที่ความผันผวนต่ำแต่มีความเสี่ยงระดับปานกลางส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางการเมือง นโยบายของรัฐ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาแล้วอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาอสังหาฯ รวมถึงขนาดทำเลที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบซึ่งจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6 – 10% ต่อปีและเหมาะกับคนที่อยากมรายได้แบบ Passive Income
-
คริปโตเคอร์เรนซี
หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด หรือกำหนดการลงทุนของจำนวนเหรียญขั้นต่ำจึงมีความเสี่ยงผลตอบแทนที่สูงมาก ซึ่งในปีหน้าช่วงเดือน เม.ย. มีแนวโน้มที่จะถูก Halving ทำให้ Supply ของบิตคอยน์ลดเหลือครึ่งหนึ่งท่ามกลาง Demand ที่เพิ่มขึ้น มักจะผลักดันราคาให้ทำระดับสูงสุดใหม่ในช่วงเดือนหลังจากที่เกิด
และทั้งหมดนี้คือ 7 รูปแบบเลือกลงทุน ที่น่าสนใจในปี 67 ที่เรานำมาฝาก สิ่งสำคัญคือแระเมินความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเองให้ดีก่อน หากตกที่ความเสี่ยงต่ำให้ลองพิจารณากลุ่มฝากเงินประจำต่าง ๆ ที่ได้ดอกเบี้ยแน่นอน หรือพันธบัตรรัฐบาลที่ความเสี่ยงต่ำหน่อย ส่วนใครที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางแนะนำลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ส่วนใครรับความเสี่ยงได้มากหน่อยก็แนะนำกลุ่มหุ้น กองทุนรวม ตราสารอนุพันธ์ต่าง ๆ หรือคริปโทเคอเรนซี