วันก่อนผู้เขียนไปอ่านเจอกระทู้ในพันทิปเป็นคุณแม่ท่านหนึ่งที่มาโพสต์ถามว่า ลูกจะรู้ไหมว่าพ่อแม่หาเงินได้ไม่เยอะขนาดนั้น คุณแม่ได้อธิบายว่าครอบครัวมีสมาชิก 3 คน คือ พ่อ แม่และลูก สามีทำงานคนเดียวมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ลูกเรียนอยู่มัธยมปลายแล้ว แต่ใช้เงินค่อนข้างเยอะ ชอบซื้อของแพง ๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายของลูกต่อเดือน มีทั้งค่าหอและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก แต่ลูกไม่รู้หรอกว่าฐานะของทางบ้านเป็นอย่างไร และไม่รู้ว่าพ่อมีเงินเดือนแค่ 30,000 บาทเท่านั้น จึงอยากสอบถามว่าครอบครัวอื่นที่มีรายได้ประมาณเท่านี้ มีงบประมาณในการซื้อเสื้อผ้าของลูกเท่าไหร่กัน
แล้วก็ได้ไปอ่านเจออีกกระทู้หนึ่งมีชื่อว่า สถานะการเงินของครอบครัว ควรจะบอกลูกไหมครับ คราวนี้เป็นลูกบ้างที่เข้ามาตั้งกระทู้ว่า พอจะทราบว่าที่บ้านมีปัญหาทางการเงินอยู่ จึงถามพ่อแม่ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เลยสงสัยว่าเรื่องเงินพ่อแม่เขาไม่บอกให้ลูกรู้กันหรือ
ทั้งสองกระทู้นี้มีผู้เข้ามาตอบและให้ความเห็นอย่างมากมาย แต่คำตอบค่อนข้างไปในแนวทางเดียวกันว่า ลูกควรต้องรู้ฐานะและการเงินของที่บ้าน เพราะการเป็นครอบครัวเดียวกันก็เหมือนกับลงเรือลำเดียวกัน แม้ว่าพ่อแม่ทุกคนจะรักลูกมากและต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่แล้ว หลายครอบครัวคิดว่าไม่อยากให้ลูกต้องกังวล อยากให้โฟกัสไปที่เรื่องเรียนอย่างเดียว
การให้ลูกรู้เรื่องเงินในครอบครัว ถือเป็นการสอนลูกให้รู้จักการใช้เงินไปในตัว ยิ่งโดยเฉพาะถ้าครอบครัวกำลังลำบาก ลูกจะได้รู้ว่าต้องช่วยประหยัด หรือต้องช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวได้อย่างไรบ้าง ซึ่งย่อมดีกว่าลูกไม่รู้เรื่องอะไร แล้วก็ใช้จ่ายไปตามปกติโดยที่ไม่ได้คิด เมื่อถึงเวลาหากครอบครัวต้องเผชิญภาวะวิกฤตหรือลำบากมากขึ้น ลูกก็จะปรับตัวไม่ได้ กลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันไปเสียอีก
ผู้เขียนเองก็มีลูกเช่นเดียวกัน เลยเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าคิดสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน มีหลายความเห็นที่เป็นมุมมองที่มีประโยชน์จากพ่อแม่ที่มีประสบการณ์ จึงขอนำมาสรุปไว้เป็นข้อคิดสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่กันค่ะ
- ไม่บอกลูกก็ไม่รู้ บางครอบครัวที่ไม่บอกเรื่องเงินให้ลูกรู้ เมื่อลูกไม่รู้ก็คิดว่าพ่อแม่ส่งเรียนไหว ก็อยากทำอะไรตามเพื่อนที่มีฐานะดี ทั้งอยากไปเรียนต่อเมืองนอก อยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรืออยากไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ เป็นต้น เมื่อไม่ได้ไปก็แสดงอารมณ์และไม่เข้าใจพ่อแม่ เหตุผลก็เพราะไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่เรื่องเงิน
- ไม่บอกลูกก็ไม่เกรงใจ บางคนเคยเห็นลูกของบางครอบครัวใช้เงินแบบน่าเป็นห่วงมาก เวลาพูดจาขอเงินพ่อแม่ใช้ก็ใช้คำไม่สุภาพหรือไม่เกรงใจ ดูเป็นเด็กเอาแต่ใจ พ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ก็น่าที่จะบอกให้ลูกรู้ฐานะการเงินของที่บ้าน และค่อย ๆ สอนเรื่องการประหยัดและการใช้จ่ายอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกเป็นแบบที่ว่าได้
- ไม่บอกลูกก็ไม่เข้าใจ บางคนมองว่าการบอกฐานะทางการเงินของครอบครัวให้ลูกรู้นั้น ถือเป็นการสร้างสมทักษะชีวิตให้กับลูกในอีกด้านหนึ่ง ลูกจะได้เข้าใจ รับสภาพได้และช่วยประหยัดเพื่ออนาคตเมื่อเขาโตไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองก็จะได้รู้จักคิดวางแผนและบริหารเรื่องเงินได้
- ใช้จิตวิทยาในการบอกลูก ส่วนบางคนก็เห็นด้วยกับเรื่องที่ต้องบอกเรื่องเงินกับลูก เพียงแต่ต้องมีจิตวิทยาในการบอก ไม่ทำให้ลูกรู้สึกเป็นกังวลหรือต้องเครียดตามไปด้วย ให้พ่อแม่เล่าเรื่องแบบกลาง ๆ ไม่ต้องใส่อารมณ์ลงไปด้วย และให้บอกวิธีแก้ไขด้วยว่าทุกคนจะช่วยกันได้อย่างไรบ้าง อาจไม่ต้องบอกละเอียดถึงขนาดว่าพ่อแม่มีเงินเดือนเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าส่งลูกไปเรียนเมืองนอกไม่ไหวหรือซื้อเสื้อผ้าแพงใส่ตลอดไม่ไหว ก็ควรอธิบายกับลูกว่าฐานะของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน เราจะตามเพื่อนทุกอย่างคงจะไม่ได้
- พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี สำคัญที่สุดก็คือพฤติกรรมในการใช้จ่ายของพ่อแม่ วิธีการสอนให้ลูกรู้จักประหยัดและใช้เงินให้เป็นที่ดีที่สุด ก็คือ พ่อแม่ต้องทำเป็นตัวอย่างก่อน ไม่ใช่ปากก็สอนลูกว่าประหยัด แต่ตัวเองยังใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่ หรือซื้อของที่ไม่จำเป็นเข้าบ้าน แบบนี้พูดเท่าไหร่ลูกก็คงจะไม่เชื่อแน่ ๆ
- ให้เมื่อลูกขอในสิ่งจำเป็น บางความเห็นก็เข้ามาตอบในฐานะของลูก ว่าไม่ได้รู้ว่าพ่อแม่มีเงินเดือนเท่าไหร่ พ่อแม่บอกแต่ว่ามีรายได้ไม่มาก มีภาระต้องผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่ ต้องช่วยกันประหยัด จึงทำให้ไม่ค่อยกล้าขอเงินมาก ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าขาดอะไร ถ้าจำเป็นก็ขอ พ่อแม่ก็ให้ทันที เพราะไม่ได้ขอบ่อย ๆ
- สอนลูกให้รู้ว่าคุณค่าของตัวเองสำคัญกว่าวัตถุภายนอก สำหรับลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น อย่างเช่น ลูกเจ้าของกระทู้ที่อยู่ ม.ปลาย เป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนจะมีอิทธิพลค่อนข้างมาก อยากมี อยากใช้ และอยากกินเหมือนเพื่อน จะว่าไปก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องสอนและบอกลูกว่า คุณค่าของคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุภายนอก อย่างเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับราคาแพง บอกว่าถ้าตัวเรามีดีอยู่ในตัว เพื่อนก็จะเห็นโดยที่ไม่ต้องใช้สิ่งภายนอกมาช่วย
- สอนลูกให้รู้จักทำงานถ้าอยากได้เงิน ฝรั่งเขาสอนลูกดีเรื่องเงิน เมื่อถึงวัยรุ่นแทบทุกคนจะต้องทำงานช่วงปิดเทอมเพื่อหารายได้เอง เราอาจใช้วิธีของฝรั่งมาใช้กับลูกได้ในกรณีที่ลูกต้องการซื้อของที่อยากได้ แต่เกินจากงบที่พ่อแม่ให้ก็จะต้องทำงานเสริมเพื่อหาเงินมาเพิ่มเอง
สำหรับผู้เขียนคิดว่าเรื่องเงินของครอบครัวที่จริงแล้วควรต้องสอนและค่อย ๆ บอกลูกมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ลูกยังเล็ก เริ่มตั้งแต่เด็กที่พอจะรู้เรื่อง ก็สอนให้ประหยัด กินและใช้อย่างคุ้มค่าและไม่ฟุ่มเฟือย แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ลำบากก็ตามก็ต้องสอนต้องบอกอยู่ดี ถึงวัยที่ลูกเข้าเรียนมีเพื่อน เป็นธรรมดาที่ลูกอาจเปรียบเทียบค่าขนมกับเพื่อน พ่อแม่ก็มีหน้าที่ต้องอธิบายว่าเงินค่าขนมที่ให้เหมาะสมกับวัยของเขาแล้วอย่างไร เมื่อลูกค่อย ๆ โตขึ้นก็สอนให้รู้จักบริหารเงินด้วยตัวเอง ให้เงินเป็นรายสัปดาห์ ถ้าหมดก่อนก็ห้ามใจอ่อน ลูกก็จะได้เรียนรู้วิธีบริหารเงินเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว
พ่อแม่ที่ใกล้ชิดลูกจะมีเรื่องสอนลูกได้ทุกวัน แม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม ให้พูดไปลูกก็จะค่อย ๆ ซึมซับ การบอกหรือพูดให้ลูกฟังย่อมดีกว่าเพราะมีโอกาสที่ลูกจะเข้าใจ แต่ถ้าไม่พูดหรือไม่บอก ก็คือลูกไม่รู้และไม่เข้าใจ ปัญหาเรื่องเงินก็จะกลายเป็นปัญหาของครอบครัวไปอีก สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ที่มีประสบการณ์บอกอยู่เสมอก็คือ เมื่อลูกยิ่งโตจะยิ่งพูดและสอนยากมากขึ้น ให้พูดและสอนตั้งแต่ยังเล็กจะง่ายกว่า