ประนอมหนี้ vs ปรับโครงสร้างหนี้ ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี?

มีหนี้สินล้นตัว ตกงาน ผ่อนหนี้ไม่ไหว หาทางออกไหนดี? ไม่ต้องกลุ้มใจไป ในปัจจุบันมีวิธีช่วยเหลือผู้ที่เป็นหนี้ แต่ไม่สามารถผ่อนหนี้สินได้ นั่นคือการประนอมหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการผ่อนผัน ลดหย่อนภาษี หรือเปลี่ยนประเภทหนี้โดยเฉพาะแล้ว ประนอมหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ ต่างกันอย่างไร วิธีแก้หนี้แบบไหนเหมาะกับคุณ อ่านไปพร้อมกันได้เลย

ประนอมหนี้ คืออะไร?

การประนอมหนี้ หมายถึง การเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้เพื่อลดจำนวนเงินต้น หรือ ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ โดยลูกหนี้ต้องเสนอเงื่อนไขที่เจ้าหนี้ยินยอม ซึ่งอาจเป็นการชำระหนี้ก้อนเดียวปิดจบ หรือ ผ่อนชำระเป็นงวดๆ โดยวิธีนี้จะเหมาะสำหรับลูกหนี้ที่มีภาระหนี้ไม่เยอะ และมีความสามารถในการผ่อนหนี้ให้หมดได้ ซึ่งลูกหนี้สามารถเจรจาข้อตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อต่อรองได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อน ผ่อนผัน หรือเปลี่ยนข้อตกลง เป็นต้น ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนจ่ายหนี้ไม่ทันในระยะที่กำหนด

ปรับโครงสร้างหนี้ กับสถาบันทางการเงิน

อ้างอิงภาพ: https://www.bot.or.th/th/satang-story/managing-debt/debt-restructuring.html

การปรับโครงสร้างหนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระเงินตามสัญญาได้  โดยจะมีการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ใหม่ให้เหมาะสมกับรายรับที่ลดลง เพื่อให้ไม่เกิดหนี้เสีย (Non-Performing Loan : NPL) ถือเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่ต้องการให้ผ่อนชำระหนี้ต่อจนหมด เนื่องจากหากลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้สินตามสัญญาที่กำหนด อาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ เสียเครดิตทางการเงิน ส่งผลกระทบต่อชีวิตและการงาน จนหาทางออกได้ยากยิ่งขึ้น โดยตัวอย่างของการปรับสร้างหนี้ จะมีทั้งการเปลี่ยนประเภทหนี้ รีไฟแนนซ์ การพักชำระเงินต้น ขยายเวลาผ่อนชำระหนี้และดอกเบี้ยเพื่อหยุดจ่าย เป็นต้น

ประนอมหนี้ vs ปรับโครงสร้างหนี้ ต่างกันยังไง?

ประนอมหนี้ กับปรับโครงสร้างหนี้อันเดียวกันไหม? ถึงแม้ว่าทั้งการประนอมหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้จะดูคล้ายกัน แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองวิธีนี้มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยมีจุดประสงค์ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ก่อให้เกิดหนี้เสีย รวมถึงเจ้าหนี้ยังได้เงินก้อนกลับมาภายในระยะเวลาที่ต่อรองใหม่ โดยทั้งสองวิธีมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนี้

ประนอมหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เหมาะสำหรับใครบ้าง

• ประนอมหนี้: เหมาะสำหรับคนที่มีหนี้สินไม่เยอะ ไม่อยากเปลี่ยนสัญญาใหม่ แต่ผ่อนผันกำหนดการจ่ายหนี้ให้นานออกไปยิ่งขึ้น สามารถทำได้ผ่านการลดหย่อน คงอัตราภาษีเดิม 
• ปรับโครงสร้างหนี้: เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ผ่อนหนี้ไม่ไหว มีเรื่องด่วนที่ต้องใช้เงิน หรือออกจากงานกะทันหัน จนทำให้มีรายรับไม่เพียงพอต่อหนี้ที่ก่อไว้ โดยสามารถเลือกรูปแบบการปรับโครงสร้างด้วยการ “พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย” เป็นการหยุดจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 3 เดือน หรือ 6 เดือน

หมายเหตุ: ในช่วงที่การปรับโครงสร้าง เพื่อหยุดจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ในช่วงนี้ควรพยายามหางานหรืออาชีพใหม่เพื่อให้มีเงินมาใช้จ่าย ชำระหนี้ และกลับเข้าสู่การใช้ชีวิตตามปกติ

คลินิกแก้หนี้ ทางออกคนมีหนี้ ตกงาน

สำหรับใครที่จ่ายหนี้ไม่ไหว ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเรายังมีคลินิกแก้หนี้ เหมาะสำหรับคนที่เป็นหนี้เครดิต หนี้บัตรกดเงินสด โดยจะมีสิทธิพิเศษในการลดอัตราดอกบเบี้ย พร้อมขยายเวลาในการผ่อนชำระให้เพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้คุณสามารถมีเงินหมุนเวียนและจ่ายหนี้ก้อนใหญ่ให้หมดได้ 

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ

• ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
• ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร
• ขั้นตอนที่ 3 : จัดเตรียมเอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
  • ใบสมัครเข้าร่วมโครงการ
  • รายงานเครดิตบูโร (ครบทุกหน้า)
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • เอกสารแสดงรายได้ (แยกตามกรณี)
  • กรณีพนักงานประจำ : สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน
  • กรณีอาชีพอิสระ : รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (ตามแบบฟอร์มแนบท้ายใบสมัคร)
• ขั้นตอนที่ 4 : ส่งเอกสารมาที่ ตู้ปณ. 40 ปณฝ.ซันทาวเวอร์ส กรุงเทพฯ 10905 

รายชื่อธนาคารที่เข้าร่วมโครงการแก้หนี้

อ้างอิงภาพ: https://www.debtclinicbysam.com/สมัครเข้าร่วมโครงการ/

การประนอมหนี้ หรือการปรับโครงสร้างหนี้ ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล สำหรับใครที่อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ สามารถขอคำแนะนำจากธนาคารและสถาบันทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้