ค้างค่างวดรถบ่อย เป็นไรมั้ย ส่งผลเรื่องอะไรบ้าง?
สำหรับคนผ่อนรถ การค้างค่างวดรถเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายได้ไม่น้อย ไม่เพียงส่งผลเรื่องของแบล็กสิสต์เท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ มองว่าเราเป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งในอนาคตอาจถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อรูปแบบอื่นๆ ก็ตาม สำหรับบทความนี้ เราจะพามาไขข้อข้องใจกันบ้างว่าค้างค่างวดรถบ่อย จะเป็นไรมั้ย ส่งผลเรื่องอะไรบ้าง ทำยังไงถ้าผ่อนรถไม่ไหวแล้ว
ค้างค่างวดรถบ่อย เป็นไรมั้ย
ประเด็นสำคัญที่ทุกคนสนใจก็คือ การค้างค่างวดรถหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้ติดแบล็กลิสต์หรือไม่ โดยหลักการแล้ว การค้างค่างวดเพียงงวดเดียวยังไม่ถือว่าเป็นเหตุให้ติดแบล็กลิสต์ทันที อย่างไรก็ตาม หากเรายังคงไม่ชำระต่อไปเรื่อย ๆ หรือค้างค่างวดรถบ่อย ๆ โอกาสที่จะติดแบล็กลิสต์ก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญสถาบันการเงินอื่น ๆ ก็จะนำส่วนนี้ไปพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เราอย่างแน่นอน
ผ่อนรถไม่ไหว ทำยังไงดี
การค้างค่างวดรถเรื่อย ๆนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการเงินของเราเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การถูกยึดรถคืนจากบริษัทให้เช่าซื้อหรือธนาคารในที่สุด ก่อนที่จะถึงจุดนั้น มีวิธีการหลายอย่างที่เราสามารถแก้ไขปัญหาผ่อนรถไม่ไหวได้ ดังนี้
- ติดต่อสื่อสารกับบริษัทให้เช่าซื้อหรือธนาคารให้ทราบสถานการณ์
หากเริ่มรู้ตัวว่าผ่อนรถไม่ไหว สิ่งแรกที่ควรทำคือติดต่อสื่อสารกับบริษัทให้เช่าซื้อหรือธนาคารโดยทันที บอกถึงสถานการณ์ที่เรากำลังประสบ เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นต้องการที่จะช่วยเหลือลูกค้าและลดความเสี่ยงในการที่ลูกค้าจะผิดนัดชำระหนี้
- ขอพักชำระค่างวดหรือขอปรับโครงสร้างหนี้
อีกวิธีหนึ่งคือการขอพักชำระค่างวดชั่วคราวหรือขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น เพื่อให้ค่างวดต่อเดือนต่ำลง ซึ่งหากสถานการณ์ของเราเข้าเงื่อนไข บริษัทให้เช่าซื้อหรือธนาคารก็อาจจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือได้
- หาเงินนอกงานประจำหรือหารายได้เสริม
หากเรามีความสามารถพิเศษหรือทักษะด้านต่างๆ เราอาจหาเงินนอกงานประจำหรือหารายได้เสริมเพื่อนำไปจ่ายค่างวดรถ เช่น งานพิเศษ งานฟรีแลนซ์ หรือการขายสินค้าและบริการออนไลน์ เป็นต้น
- พิจารณาขายรถคันเก่าและหาซื้อรถใหม่ที่มีค่างวดรายเดือนที่เหมาะสม
ในกรณีที่เราไม่สามารถจ่ายค่างวดรถได้อย่างแน่นอน การขายรถคันเก่าและหาซื้อรถคันใหม่ที่มีค่างวดรายเดือนที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของเราก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แม้จะอาจต้องจ่ายเพิ่มบ้างในการค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่ก็ยังดีกว่าการถูกยึดรถ
- ยอมให้มีการยึดรถคืน
ในกรณีที่เราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีใดๆ ได้เลย การยอมให้มีการยึดรถคืนก็อาจเป็นทางออกสุดท้าย แม้จะสูญเสียเงินดาวน์ แต่ก็ยังดีกว่าการถูกฟ้องร้องหรือถูกบังคับคดี ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น
อ่านมาถึงตรงนี้คงพอได้คำตอบแล้วว่า การค้างค่างวดรถบ่อย ส่งผลอะไรบ้าง ซึ่งอาจไม่ทำให้เราติดแบล็กลิสต์ทันที แต่จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาขอสินเชื่อในอนาคต ดังนั้น หากเราเริ่มเผชิญกับปัญหาผ่อนรถไม่ไหว ควรหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด โดยการติดต่อกับบริษัทให้เช่าซื้อหรือธนาคารผู้ให้สินเชื่อ เพื่อลดความเสียหายและหาทางออกร่วมกัน นอกจากนี้ เราควรปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย หาเงินเพิ่มเติม หรือปรับเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ตามสถานะทางการเงินที่เปลี่ยนไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นในอนาคต