เริ่มวางแผนเกษียณตอนไหนดี แต่ละช่วงวัยควรทำยังไงบ้าง
การเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญของชีวิต การวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน มีเงินก้อน เพื่อสามารถใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างสบายใจ แต่คำถามที่มักถูกถามคือ “เราควร เริ่มวางแผนเกษียณตอนไหนดี” บทความนี้จะให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการวางแผนเกษียณของเรา
ทำไมการวางแผนเกษียณจึงสำคัญ
หลายคนมองข้ามความสำคัญของการวางแผนเกษียณในวัยหนุ่มสาว แต่การเริ่มต้นเร็วเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะ
- ผลตอบแทนของการลงทุนประจำ เมื่อเราเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย เงินของเราจะมีเวลามากขึ้นในการเติบโตผ่านดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งหมายความว่าเงินที่เราลงทุนจะก่อให้เกิดผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น หากเราเริ่มลงทุน 100 บาทต่อเดือนตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี เมื่ออายุ 65 ปี เราจะมีเงินออมประมาณ 300,000 บาท แต่หากเราเริ่มในช่วงอายุ 35 ปี เราจะมีเงินออมเพียง 130,000 บาทเท่านั้น
- ความสามารถในการรับความเสี่ยง เมื่ออายุน้อย เรามีระยะเวลายาวนานในการชดเชยความผันผวนของตลาด ดังนั้นเราจึงสามารถรับความเสี่ยงการลงทุนได้มากกว่า ซึ่งหมายความว่าเราสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น หุ้น เมื่ออายุมากขึ้น เราอาจต้องปรับลดความเสี่ยงลงเพื่อปกป้องเงินออมของเรา
- ความคล่องตัวในการวางแผน เมื่อเราเริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ เราจะมีเวลามากพอในการปรับเปลี่ยนแผนการออมและการลงทุนของเราให้สอดคล้องกับเป้าหมายและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ เรายังสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการหลังเกษียณของเราได้ดียิ่งขึ้น
เริ่มวางแผนเกษียณตอนไหนดี แต่ละช่วงวัยควรทำยังไงดี
จุดเริ่มต้นที่เหมาะสม : ช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปี
แม้ว่าจะไม่มีเวลาที่สายเกินไปสำหรับการวางแผนเกษียณ แต่ช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปีถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด ในช่วงเวลานี้ เรามีข้อได้เปรียบหลายประการ:
- เราเพิ่งเริ่มต้นอาชีพการงาน และมีรายได้ประจำ ทำให้สามารถเริ่มสร้างนิสัยการออมได้
- เรายังไม่มีภาระผูกพันมากนัก เช่น สมรส มีบุตร หรือซื้อบ้าน ดังนั้นจึงมีความคล่องตัวทางการเงินมากกว่า
- เรามีเวลาอีกยาวนานในการปรับเปลี่ยนแผนการออมและการลงทุนของเรา
เมื่ออยู่ในช่วงอายุนี้ ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการสร้างงบประมาณและกำหนดเป้าหมายการออม แม้จะเป็นจำนวนเล็กน้อย แต่การสร้างนิสัยการออมตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เราเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น เรายังควรพิจารณาการลงทุนระยะยาวอย่างเช่น กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เร่งสะสมเงินออม : ช่วงอายุ 30 ถึง 40 ปี
หลังจากวางรากฐานการออมและการลงทุนในช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปีแล้ว ช่วงอายุ 30 ถึง 40 ปีเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเร่งสะสมเงินออมสำหรับการเกษียณ เนื่องจากในช่วงนี้เรามักจะมีรายได้ที่สูงขึ้นและมีภาระผูกพันทางการเงินเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับเพิ่มอัตราการออม
ในช่วงอายุนี้ เราควรมีเป้าหมายที่จะออมอย่างน้อย 15% ของรายได้สำหรับการเกษียณ หากเป็นไปได้ ให้พยายามเพิ่มอัตราการออมเป็น 20% หรือมากกว่า นอกจากนี้ เรายังควรทบทวนแผนการลงทุนของเราเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้
หากเรายังไม่ได้เริ่มวางแผนเกษียณในช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปี อย่าได้ท้อแท้ ช่วงอายุ 30 ถึง 40 ปียังคงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เราอาจต้องเพิ่มอัตราการออมและลงทุนให้มากขึ้นเพื่อให้ทันกับเป้าหมาย นอกจากนี้ การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มเงินออม
ช่วงวางแผนอย่างละเอียด : ช่วงอายุ 40 ถึง 50 ปี
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ถึง 50 ปี การวางแผนเกษียณจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้ เราควรทบทวนและปรับปรุงแผนการออมและการลงทุนของเราอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องในการบรรลุเป้าหมายการเกษียณของเรา
หนึ่งในสิ่งที่ควรพิจารณาในช่วงอายุนี้คือการลดความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากเรามีระยะเวลาที่สั้นลงในการชดเชยความผันผวนของตลาด ดังนั้น เราอาจต้องปรับสัดส่วนการลงทุนของเราให้เน้นไปที่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนตราสารหนี้
นอกจากนี้ เรายังควรเริ่มคำนวณความต้องการทางการเงินสำหรับช่วงเกษียณอายุอย่างละเอียด โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ค่ารักษาพยาบาล และกิจกรรมยามว่าง เป็นต้น การมีประมาณการที่ถูกต้องจะช่วยให้เราสามารถปรับแผนการออมและการลงทุนของเราให้สอดคล้องกับความต้องการเหล่านั้น
เตรียมพร้อมสู่วัยเกษียณ : ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป
เมื่ออายุเข้าใกล้ 60 ปี เราควรเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณอย่างจริงจัง ในช่วงเวลานี้ เราควรมุ่งเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพของเงินออมและการลงทุนของเรา โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่สูงเกินไป
หนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมคือการลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนตราสารหนี้ ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ระยะเวลาจนถึงวันเกษียณ เป้าหมายการออม และความเต็มใจในการรับความเสี่ยง
นอกจากนี้ เรายังควรเริ่มวางแผนเกี่ยวกับการรับเงินบำนาญหรือการถอนเงินออมของเรา โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น อายุขัยเฉลี่ย ภาระภาษี
สรุปได้ว่า เริ่มวางแผนเกษียณตอนไหนดี ต้องบอกว่าการวางแผนเกษียณเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา และยิ่งเราเริ่มต้นเร็วเท่าใด ก็จะยิ่งมีโอกาสในการบรรลุเป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงอายุใด การลงมือวางแผนตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างสบายใจ อย่าลืมทบทวน และปรับแผนการออม และการลงทุนของเราอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป