การอยู่ร่วมกันในสังคมของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น การแข่งขันถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา ต่อให้ใครบางคนบอกว่าไม่คิดจะแข่งกับใคร แต่จริง ๆ เขาก็แข่งกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ
เมื่อพูดถึงการแข่งขัน หลายคนมักจะคิดไปในทางร้ายก่อนว่า ต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด และคู่แข่งต้องตายกันไปข้างหนึ่งแน่ ๆ แต่อันที่จริงแล้ว เมื่อเราลองทำความเข้าใจกับคำว่า “การแข่งขัน” จริง ๆ จะเห็นว่ามันก็ไม่ได้มีความหมายไปในทางร้ายเสมอไป ในทางตรงกันข้าม การแข่งขันและ “คู่แข่ง” นี่แหละ ที่เป็นปัจจัยหนึ่งอันจะนำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ เนื่องจากเมื่อเกิดการแข่งขันใด ๆ ขึ้นมาแล้ว คู่แข่งแต่ละฝ่ายย่อมต้องงัดไม้เด็ดออกมางัดกับคู่แข่ง ทำการพัฒนาตนเองเพื่อให้ตนเองอยู่รอด และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างสวยงาม หากที่ใดก็ตามที่ไม่มีการแข่งขันเลย ที่นั่นย่อมไม่เกิดความเจริญรุ่งเรืองใด ๆ ขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือถูกแช่แข็งไว้กับที่นั่นเอง และจะค่อย ๆ เข้าสู่กาลอวสานในที่สุด เพราะฉะนั้น การแข่งขันและคู่แข่งจึงเป็นสิ่งสำคัญหากต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะกำลังงงอยู่ว่า แล้วตกลงคู่แข่งมันมีความสำคัญอย่างไร และจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไรกันล่ะ ?
ข้อนี้จะขออธิบายก่อนว่า เมื่อเราจะไปสู้ความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่แน่นอนว่าบัลลังก์แห่งความสำเร็จนั้นย่อมมีอยู่เพียงตัวเดียว แต่ผู้ที่ต้องการจะไปสู่ความสำเร็จนั้นมีอยู่หลายคนด้วยกัน ดังนั้น การที่เราจะไปสู่ความสำเร็จนั้นได้ก็คือ ตัวเราจะต้องปรับตัวให้ดีขึ้น มีจุดขายแปลกใหม่อย่างที่คู่แข่งไม่มี รวมทั้งต้องมีกลยุทธ์ที่จะป้องกันไม่ให้คู่แข่งสามารถตีเราจนตกไปได้ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งแรกที่เราต้องทำหากคิดจะขึ้นมาอยู่เหนือคู่แข่งทั้งมวล ก็คือ การเรียนรู้ว่าคู่แข่งคิดจะทำอะไร อะไรคือจุดขายที่ทำให้คู่แข่งขึ้นมายืนหยัดอย่างทุกวันนี้ได้ และอะไรที่เป็นช่องโหว่ของคู่แข่ง อันเราจะสามารถนำมาประยุกต์ แล้วใช้ช่องโหว่นั้นขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่ง หรือเหนือกว่าคู่แข่งได้
จะเห็นได้ว่า การเรียนรู้คู่แข่งนั้นมีความสำคัญพอสมควรสำหรับการขึ้นแท่นไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งการเรียนรู้คู่แข่งเพื่อประสบความสำเร็จนั้น เราสามารถทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การศึกษาข้อมูลตามที่คู่แข่งได้เปิดเผยออกมา ไปจนถึงการใช้วิธีขั้นสูงในการศึกษาคู่แข่ง เช่น การลงพื้นที่สำรวจจุดที่เป็น Landmark หรือจุดทำกำไรของคู่แข่ง สอบถามคนในพื้นที่ว่าทำไมจึงให้การสนับสนุนคู่แข่ง สร้างแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสีย ของคู่แข่ง และผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง โดยวิธีการนี้ถึงแม้จะไม่ได้ข้อมูลมาตรง ๆ แต่เราก็สามารถนำข้อมูลดิบที่ได้มาวิเคราะห์ดู จนได้คำตอบว่าทำไมคู่แข่งจึงประสบความสำเร็จบนพื้นที่นั้น ๆ ได้ และมีช่องโหว่ตรงไหนที่คู่แข่งยังไม่มี แล้วเราสามารถจัดการตัวเองให้เหนือกว่าคู่แข่งได้
เมื่อเราเรียนรู้คู่แข่งสำเร็จแล้ว ทีนี้เราก็จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวนั้นไปคิดทบทวน ต่อยอด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายเราเองได้ เช่น อาจจะใช้แนวทางการประสบความสำเร็จแบบเดียวกับคู่แข่ง แต่ใช้วิธีการที่รัดกุมกว่าคู่แข่งหรือจะใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปจากคู่แข่งไปเลย แต่ต้องเป็นวิธีการที่ตอบโจทย์และเป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่มี เพราะถ้าขืนใช้วิธีการที่แตกต่างมากเกินไปจนไม่ตอบโจทย์ การจะประสบความสำเร็จในระดับเดียวกับคู่แข่ง หรือจะเหนือกว่าคู่แข่งก็เป็นเรื่องยาก สุดท้ายถ้าเกิดเราไม่สามารถประสบความสำเร็จเทียบเท่ากับคู่แข่งได้ สิ่งที่จะตามมาก็คือ ระบบ ระเบียบ และวิธีการต่าง ๆ ที่เราได้คิดขึ้นมาย่อมพังไม่เป็นท่า ก่อนจะค่อย ๆ สูญสลายหายไปในที่สุด
ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการมีคู่แข่งขันเพื่อขึ้นไปสู่บัลลังก์แห่งความสำเร็จ ก็คือ เมื่อเราต้องมีการเรียนรู้ การพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อเอาชนะคู่แข่งแล้ว ย่อมทำให้เรามีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา มีความ Active อยู่เสมอ เพราะถ้าขาดความ Active แล้ว การพัฒนาตนเองย่อมเป็นไปอย่างเชื่องช้า งุ่มง่าม ไม่ทันคู่แข่งได้ เมื่อมีความ Active อยู่ตลอดเวลาแล้ว แน่นอนว่าเราย่อมคิดไอเดียใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ ในขณะที่หากเราไปอยู่ในสถานการณ์ที่เรื่อย ๆ มาเรียงๆ ไม่มีคู่แข่งที่จะประจันหน้าด้วย การคิดไอเดียใหม่ ๆ ย่อมไม่เกิดขึ้น ตามมาด้วยการไม่พัฒนาตนเอง สุดท้ายก็จะวนกลับไปที่การไม่พัฒนาตนเอง ถูกแช่แข็งอยู่กับที่ และค่อย ๆ เข้าสู่กาลอวสาน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าท่านผู้อ่านหลาย ๆ คน น่าจะเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ จึงต้องมีคู่แข่งขันอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งในสถานการณ์ตึงเครียดหรือคู่แข่งที่จริง ๆ ไม่ได้เป็นศัตรูกันก็ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญเวลาที่อยากจะประสบความสำเร็จยามมีคู่แข่ง นั่นก็คือ ตัวเราต้องหมั่นศึกษาคู่แข่ง ดูทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และช่องโหว่ของคู่แข่งให้ครบถ้วน ตามอย่างวรรณกรรมจีนทั้งหลายที่มักมีวลีว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครา” จากนั้นเมื่อศึกษาคู่แข่งได้แล้ว ทีนี้เราก็นำเอาข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ ที่สำคัญเลยก็คือ ตัวเราต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเอาชนะคู่แข่งจริง ๆ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ หากผู้แสวงหาหนทางแห่งความสำเร็จท่านใดสามารถปฏิบัติตนได้เช่นนี้ รับรองว่าความสำเร็จเหนือคู่แข่ง หรือระดับเดียวกับคู่แข่ง ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน