การวางแผนทางการเงิน คือ การบริหารจัดการรายรับ รายจ่ายและเงินเก็บอย่างเป็นระบบ มีความสอดคล้องลงตัว จึงนับเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สามารถควบคุมสถานะทางการเงินได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากขาดซึ่งการการวางแผนด้านการเงิน และใช้จ่ายอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ ผลก็ย่อมตกอยู่ในทางตรงกันข้าม สำหรับวันนี้ เพื่อเป็นการให้แง่คิดเตือนใจสำหรับท่านที่กำลังรู้สึกว่าตนเองไม่เคยวางแผนการใช้จ่ายเลย จึงขอนำเสนอ 6 ข้อเสียของการไม่วางแผนทางการเงิน เพื่อให้ทุกท่านรู้จักระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายและรีบปรับปรุงพฤติกรรมการใช้จ่ายได้อย่างทันท่วงที ขอเชิญไปติดตามกันครับ
ผลเสียประการที่ 1 ไม่วางแผนการเงิน รายได้สูญเปล่าอย่างไร้ประโยชน์
ดังเป็นที่ทราบดีว่ารายได้นั้นเป็นสิ่งที่กว่าจะได้มาก็ต้องแลกด้วยทั้งเวลา กำลังกาย และกำลังความคิด ดังนั้น ถ้าหากลงทุนลงแรงด้วยความเหนื่อยยาก แต่กลับไม่รู้จักวางแผนการใช้จ่าย ก็ย่อมจะต้องนับเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะจะทำให้รายได้ที่หามานั้นจำต้องสูญเปล่าไปอย่างไร้ซึ่งประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายไปกับสินค้าฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายไปกับความบันเทิงที่เกินความจำเป็น หรือใช้จ่ายไปกับสิ่งล่อตาล่อใจโดยไม่ทันได้คำนึงว่าแท้ที่จริงแล้วตนเองต้องการมันหรือไม่ กว่าจะรู้สึกตัวก็พบว่ารายได้ที่อุตส่าห์ทุ่มเทเหนื่อยยากในการแลกมานั้นก็ได้สลายสิ้นไปเสียแล้วโดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
ผลเสียประการที่ 2 ไม่วางแผนการเงิน ไม่มีเงินเก็บ
การใช้จ่ายโดยไม่วางแผนทางการเงิน นอกจากจะทำให้รายได้สูญเปล่าไปอย่างไร้ประโยชน์แล้ว ผลเสียสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือจะทำให้ท่านไม่มีเงินเก็บ เพราะเมื่อมีรายได้ แทนที่จะนำรายได้นั้นมาแบ่งสันปันส่วนไว้เป็นเงินเก็บเพื่อสำรองใช้ในยามฉุกเฉิน ก็กลับใช้จ่ายไปเสียจนหมดสิ้น ไม่เหลือเงินสำรองเพื่อใช้ประกันความเสี่ยง หากเกิดเหตุหรือจำต้องพบกับรายจ่ายอันไม่คาดคิด ทั้งยังไม่มีเงินก้อนไว้สำหรับลงทุนต่อยอด หรือใช้สอยเมื่อถึงคราวที่ต้องการในอนาคตอีกด้วย
ผลเสียประการที่ 3 ไม่วางแผนการเงิน ทางลัดสู่ภาวะหนี้สิน
เมื่อไม่มีเงินเก็บเพราะขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี ผลพวงประการถัดมาก็คือเรื่องของหนี้สิน เพราะถ้าหากถึงคราวเคราะห์ที่ต้องพบกับรายจ่ายอันไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยที่จำเป็นต้องใช้ค่ารักษาพยาบาล ต้องซื้อ หรือซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเร่งด่วน ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหยิบยืมหรือกู้เงินจากแหล่งเงินต่างๆ ซึ่งจะต้องสูญสิ้นเงินทองไปกับดอกเบี้ย โดยไม่ได้ประโยชน์กลับคืน การไม่วางแผนทางการเงินจึงนับเป็นทางลัดสู่ภาวะหนี้สินโดยที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย
ผลเสียประการที่ 4 ไม่วางแผนการเงิน ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
ผู้ที่มีรายได้ในช่วงแรกเริ่ม อาจมีความทะเยอทะยานในการใช้จ่ายเพื่อแลกมาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ คอนโด หรือข้าวของเครื่องใช้อันมีมูลค่า อย่างไรก็ตาม รายได้นั้นกลับไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่จะช่วยให้สามารถได้มาซึ่งสิ่งต่างๆ ได้ แต่ปัจจัยที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเรื่องของการวางแผนทางการเงิน แม้จะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกว่าสักวันจะสามารถซื้อหาสิ่งที่ต้องการได้ แต่ถ้าหากไร้ซึ่งการวางแผนทางการเงิน รายได้เหล่านั้นก็ย่อมจะไม่ถูกแบ่งสันปันส่วนและเก็บออมไว้อย่างมีวินัย จึงทำให้ไม่สามารถไขว่คว้าความใฝ่ฝันหรือสิ่งที่ต้องการได้เสียที และในบางครั้งบางทีก็อาจเป็นได้แค่เพียงความใฝ่ฝันที่ไม่ถูกสานต่อให้เป็นความจริง
ผลเสียประการที่ 5 ไม่วางแผนการเงิน ใช้เงินอย่างไม่มีอนาคต
การไม่วางแผนทางการเงิน นับเป็นการใช้เงินอย่างสะเปะสะปะ ไม่มีระบบแบบแผนที่ควบคุมได้ ดังนั้นจึงทำให้สภาวะทางการเงินขาดความมั่นคง ไม่สามารถกำหนดได้ว่าในแต่ละเดือนจะต้องมีรายรับเท่าใด มีรายจ่ายเท่าใด และมีเงินเก็บเท่าใด จึงยากที่จะกำหนดอนาคตได้ ถึงแม้จะมีรายได้สูง แต่ถ้าหากไร้ซึ่งการวางแผนทางการเงินที่ดีแล้ว เวลาก็ย่อมถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า ตั้งแต่ 1 เดือน 1 ปี หรือ 10 ปี กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองยังไม่ได้เริ่มต้นเก็บสะสมเงินทองเลย ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเรียกได้ว่าการไม่วางแผนการเงินนั้น นับเป็นการใช้เงินโดยไร้ซึ่งอนาคตอย่างแท้จริง
ผลเสียประการที่ 6 ไม่วางแผนการเงิน ไม่มีวันประสบความสำเร็จ
การวางแผนทางการเงิน เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เรามุกคนสามารถประสบความสำเร็จทางด้านการเงินได้ เพราะเมื่อสามารถทราบถึงภาวะทางการเงิน ทั้งรายรับ รายจ่าย เงินคงเหลือ ตลอดจนความเสี่ยงต่างๆ ก็ย่อมสามารถควบคุมได้โดยอิสระ ในทางกลับกัน ถ้าหากไร้ซึ่งการวางแผนทางการเงินแล้ว ความสำเร็จก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีวันจะไขว่คว้ามาได้