น้องๆ ที่ทางบ้านพอมีฐานะหรือที่บางคนมีปัญหาทางการเงิน แต่อยากจะเรียนต่อ ซึ่งถือเป็นคนใฝ่ดี และหลายคนอาจมีคำถามนี้ในใจว่า หากอยากส่งตัวเองเรียน ต้องทำยังไง บางคนต้องช่วยพ่อแม่ทำงานในช่วงหลังเลิกเรียน เพื่อหาเป็นรายได้พิเศษ การเลือกที่จะเก็บออมควรวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายออกมาให้ชัดเจน ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว เพราะต่อไปอาจจะต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น การส่งตัวเองเรียนส่วนใหญ่จะแบ่งค่าใช้จ่ายหลักๆ ออกเป็นค่าเทอม และค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์และชีวิตประจำวัน แต่ก็มีพ่อแม่หลายๆ คนไม่ค่อยอยากแนะนำให้น้องๆ วัยเรียนขวนขวายหาเงินมาจ่ายค่าเทอมของตัวเองเท่าไหร่ โดยเฉพาะเด็กน้อยระดับประถม ที่พ่อแม่มักจะมองว่าลูกยังเป็นเด็ก
อ่านเพิ่มเติม : วัยเรียน ออมเงิน ได้ สร้างรายได้เป็น
ข้อดีของการทำงานหาเงินเรียนเอง
การหาเงินเรียนเองตั้งแต่เด็กมีข้อดีหลายอย่างคือ นอกจากจะทำให้น้องๆ ได้แบ่งเบาภาระพ่อแม่ แล้วก็ยังทำให้น้อง ๆ มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านการทำงานและบริหารเงินด้วย อีกอย่างเพราะการหาเงินเองก็มักจะทำให้รู้จักคำว่า เห็นคุณค่าของเงิน มากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือการรู้จักประหยัดอดออม ทำให้น้องๆ รู้จักคุณค่าของเงิน แต่การหาค่าเทอมซึ่งอาจจะเป็นหลักหมื่นหรือมากกว่านั้น มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน เพราะด้วยความที่จำนวนเงินมันเยอะอาจจะทำให้น้องๆ โฟกัสผิดเรื่อง กลายเป็นมาหมกมุ่นอยู่กับการหาเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งวัยเรียนเป็นวัยที่เราควรมีชีวิตหลายๆด้าน ไม่ใช่เอาแต่หมกมุ่นเรื่องเรียนอย่างเดียวด้วยเช่น กัน แต่ควรใช้เวลาหาประสบการณ์ ในการทำกิจกรรม กีฬา บำเพ็ญประโยชน์ ควรหัดการใช้ชีวิตด้วยการหาเงินในวัยเรียนซึ่งควรทำให้เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่เหมือนการหัดเดิน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือค่อยๆ เริ่มทำ ค่อยๆ เก็บค่อยๆ หาคือไม่ใช่เร่งหาเงินปีละเป็นแสนๆ มาจ่ายค่าเทอม อันนั้นมันไม่ใช่แล้ว
ข้อแนะนำ สำหรับคนที่ อยากส่งตัวเองเรียน
น้อง ๆ ที่มีความคิดที่จะพัฒนาตัวเอง จะสามารถสอบชิงทุนมาจ่ายค่าเล่าเรียนได้ รวมถึงการหัดเริ่มทำงานพิเศษและเก็บออมเพื่อจะได้สามารถนำมาจ่ายค่าอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายประจำวันของตัวเองได้ แค่นี้ก็จะสามารถขึ้นชื่อว่า ส่งตัวเองเรียน โดยที่ไม่ต้องเสียการเรียน และยังเป็นการหัดหารายได้ แบ่งเบาภาระพ่อแม่ และยังได้โอกาสพัฒนาฝีมือตัวเองอีกด้วย ซึ่งการหางานสำหรับน้องๆ ม.ต้น จริงๆ แล้วมีหลากหลายทุนมากๆ และขึ้นอยู่กับว่าเราจะขวนขวายหาข้อมูลมากแค่ไหน หรือจะลองสอบชิงทุนอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ โดยจะเปิดรับสมัครน้องๆ ม. 2 ถึง 3 กับน้อง ม. 4-5 โดยจะจัดสอบคัดเลือกทุกๆ ต้นปี มีสอบข้อเขียนกับสัมภาษณ์ โดยทุนนี้ส่งเรียนฟรี มีหอให้ และยังมีเงินเดือนด้วย ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาว่าน้องๆ ว่ามีความสามารถและเก่งด้านไหน ขาดอะไรเพื่อที่จะได้กลับมาพัฒนาตัวเองได้
การหารายได้พิเศษในวัยเรียน
ส่วนเรื่องการหารายได้พิเศษควรเริ่มจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายก่อน ประมาณหนึ่งอาทิตย์ จะได้รู้ว่าในแต่ละสัปดาห์น้อง ๆ ใช้เงินประมาณเท่าไหร่ อาจดูไม่สำคัญ แต่บัญชีรายรับ-รายจ่าย ทำแล้วจะรู้เลยว่าน้องๆ ใช้เงินเปลืองแค่ไหน เพราะตอนใช้ไม่ค่อยได้คิด จึงอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ คือเพิ่งกดตังค์หรือพ่อแม่เพิ่งให้มา แล้วรู้สึกว่าทำไมหมดเร็วจัง หลังจากทำและกะค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้แล้ว มาดูว่าควรจะหาเงินให้ได้จำนวนเงินต่ออาทิตย์ที่เสียไปได้อย่างไร ที่สำคัญก็คือ เวลาจะนึกถึงเรื่องการหาเงิน ลองนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทั้งชอบและถนัด เพราะมันจะทำให้น้องๆ ได้ทำสิ่งนั้นออกมาได้ดีที่สุด เช่นการสอนหรือติว ที่สามารถทำเป็นอาชีพได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะน้องๆ อาจติวให้เพื่อนๆ มาตั้งแต่สมัยเรียน แล้วหากยิ่งเป็นคนชอบสอนด้วย ก็จะทำให้สนุกและทำให้รู้สึกฉลาดขึ้น เมื่อสอนหนังสือหลายๆ ครั้งเข้า ก็สามารถเลือกที่จะหารายได้พิเศษจากการสอนพิเศษได้
การวางแผนการหารายได้พิเศษในอนาคต
แต่การสอนก็ไม่ใช่ทางเดียวของการหารายได้พิเศษ เพราะบางคนถนัดด้านแฟชั่น หรือของสวยๆ งามๆ ก็ซื้อครีม หรือกระเป๋าเสื้อผ้า มาเปิดร้านขายแบบออนไลน์ก็เวิร์คเหมือนกัน หรือถ้าจะคิดให้ไกลกว่านั้น ให้เลือกการทำงานที่จะช่วยคุณในอนาคต คือนอกจากได้เงินแล้วยังมีประโยชน์และได้ความรู้ใหม่ๆ อีกด้วย เช่นหากต้องการเป็นเจ้าของร้านอาหาร ก็ต้องไปหัดเป็นเด็กเสิร์ฟ อยากทำงานเกี่ยวกับการเงินการลงทุน ก็ลองขอสมัครไปเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทการเงิน เราจะได้เห็นภาพว่างานแต่ละสายเป็นยังไงบ้าง งานที่ได้รับมอบหมายให้ทำตอนฝึกงานอาจดูเป็นงานที่ไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยก็ได้รับค่าตอบแทนมาเป็นค่าขนม แล้วก็ยังมีโอกาสได้คลุกคลีอยู่กับผู้ที่ทำงานประจำอยู่ที่นั่น เค้ามีประสบการณ์มากกว่าเมื่อทำงานเสร็จ ก็ยังสามารถามคำถามได้อีก นี่เท่ากับเค้าจ้างเรามาเรียนเลย
และทุกคืนก่อนนอนอย่าลืมหาความรู้พัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อสอบชิงทุน และเสาร์หรืออาทิตย์ ก็อาจจะหาเวลาไปรับงานพิเศษที่ตัวเองถนัดมาเป็นรายได้เสริม แค่นี้ก็จะได้เป็นวัยรุ่นยุคใหม่ ไม่ใช้สตางค์พ่อแม่ได้แล้วล่ะ