คุณแม่หลายคนนั้นเมื่อต้องตัดสินใจไปทำงาน หลังจากที่ลาคลอด 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี เป็นเวลาที่ค่อนข้างลำบากใจและต้องปรับตัวเนื่องจากต้องห่างจากลูกเป็นครั้งแรก ตามความเห็นของผู้เขียนการลาคลอดเวลาขนาดนี้ไม่เพียงพอต่อการดูแลเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่ด้วยความจำเป็นของภาวะเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันทำให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปหาเงินเพื่อให้ตอบรับค่าใช้จ่ายที่มีมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
การตัดสินใจไปทำงานของคุณแม่จำเป็นต้องวางแผนให้ดีว่าใครจะเลี้ยงและดูแลลูกของเรา จะต้องเตรียมการหาพี่เลี้ยงหรือนัดแนะญาติพี่น้องปู่ย่าตายายมาช่วยเลี้ยง แต่คนเป็นแม่ก็ย่อมเป็นห่วงลูกอยู่แล้วว่าเขาจะดูแลลูกดีมั้ย จะหกล้ม หรือยอมกินข้าวรึเปล่า สิ่งที่คุณแม่ทำได้คือต้องทำใจ และปล่อยวาง สำหรับผู้เขียนเองก็รู้สึกเครียดไม่น้อยว่าจะทำอย่างไรดีถ้าต้องกลับไปทำงาน มีความกังวลล้านแปด
ทำอย่างไรไม่ให้คุณแม่เครียด เป็นเทคนิคเล็ก ๆ ที่ผู้เชียนได้ทดลองใช้กับตัวเองแล้วอยากเอามาแบ่งปัน
- จัดตารางเวลาว่าเวลานี้ต้องทำอะไร
อาจจะเขียนใส่กระดาษแปะบนตู้เย็นไว้ว่าเวลานี้ต้องทำอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น 6.00 น. ตื่นนอน ล้างหน้าแปรงฟัน / 6.30 น. เตรียมอาหารให้ลูกน้อย / 7.00 น. เตรียมป้อนข้าวลูก / 7.30 น. แต่งตัวเตรียมออกจากบ้านไปทำงาน / 17.45 น. เตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน / 18.15 น. กลับบ้านป้อนข้าวลูก / 18.30 น. เล่นกับลูก / 19.00 น. อาบน้ำลูกน้อย / 20.00 น. พาลูกให้นอน และป้อนนม
- เตรียมอุปกรณ์การปั๊มนม (ในกรณีคุณแม่ยังให้นมแม่อยู่)
สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกอยู่การวุ่นวายเกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์ก็ช่วยแก้เครียดได้เหมือนกัน ทั้งเตรียมกระเป๋า เครื่องปั๊ม ล้างและนึ่งอุปกรณ์
- ทำความสะอาดบ้าน คลายเครียด
ผู้เขียนใช้วิธีนี้เป็นประจำ ถ้าเราเครียดอาจจะรอให้ลูกหลับแล้วออกมากวาดบ้าน เช็ดฝุ่น ถูบ้านได้ ล้างขวดนม นึ่งขวดนม หรือถ้าไม่อยากกวาดบ้านอาจจะเก็บตังค์ซื้อเครื่องดูดฝุ่นเดินได้เองแบบอัตโนมัติ ให้เดินเก็บฝุ่น แต่ว่าต้องเลือกเครื่องที่มีเสียงเบา เพราะลูกน้อยอาจจะตื่นได้ การที่เราเครียดแล้วทำความสะอาดบ้านช่วยทำให้บ้านสะอาดได้อีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้คุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงานนั้นมีหลากหลาย โดยส่วนใหญ่มี 2 แนวใหญ่ ๆ คือ
- ความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่ามีลูก 1 คน ค่าใช้จ่ายนั้นมีมากมาย ถ้าสามีไม่สามารถหาเลี้ยงได้ (แหล่งรายได้ 1 แหล่ง) คุณแม่ก็ต้องช่วยหาเลี้ยง เพื่อหารายได้เข้าบ้านช่วยอีกแรง ใน 1 วันเด็กน้อยมีค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าท่องเที่ยว นี่ยังไม่รวมค่าเล่าเรียนในอนาคต ดังนั้นทำให้คุณแม่จึงต้องกลับมาทำงาน อย่างน้อยคุณแม่ก็มีรายได้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้ไม่มากก็น้อย
- ความจำเป็นทางสังคม
หลายคนมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี ถ้าลาออกไปเลี้ยงลูกก็จะเสียดายความรู้ที่มีอยู่ในตัวเอง ดังนั้นจึงต้องกลับมาทำงาน ในส่วนตัวผู้เขียนเองได้หยุดทำงานเป็นเวลา 1 ปี แต่ด้วยความที่เสียดายหน้าที่การงานถ้าเราเว้นหายไปนานเราอาจจะไม่ได้กลับมาทำงานนี้อีกแล้ว ซึ่งมีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเงินเดือนที่ไม่ได้แย่ และทำงานใกล้บ้าน บางทีถ้าไม่มีคนที่เรารู้จักคนที่ทำงาน เราอาจจะไม่มีโอกาสที่ได้ทำงานนี้อีกแล้ว ต้องไปหางานใหม่ในอนาคต
ตามความคิดของผู้เขียนโดยส่วนตัวมองว่า ถ้าผู้หญิงไม่มีรายได้ต้องมีความมั่นใจมากพอว่าสามีมีความสามารถในการเลี้ยงดูได้ แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายหญิงมีความเสี่ยงเสมอ เพราะถ้าไม่ได้ทำงานต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก และถ้าวันนึงต้องเลิกกับสามีจะทำอย่างไร ดังนั้นควรจะต้องคิดให้ดีก่อนลาออกจากงาน ถ้าไม่มีงานประจำทำก็ควรหางานเสริมสำรองไว้เพื่อประกันรายได้ของตัวเอง เพราะไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต
ผู้เขียน: