ธนาคารโลกชี้! ความเสี่ยงภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกลดเหลือ 1.7%
โลกในปัจจุบันถือได้ว่ายังคงวนอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น ทำให้ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกเติบโตปีนี้เหลือ 1.7% จากความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย อัตราเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น การลงทุนที่ซบเซา และวิกฤติการสู้รบยืดเยื้อในยูเครน จึงเห็นได้เลยว่า ความวุ่นวาย หรือสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ความขัดแย้ง หรือโรคระบาด จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทำให้เราเห็นได้เลยว่าประเทศไทยยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
แล้วความเสี่ยงภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกลดเหลือ 1.7% คืออะไร ? วันนี้เราจะให้คุณทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน ว่ามีปัจจัยมาจากอะไร แล้วคุณต้องรับมืออย่างไรกับสถานการณ์นี้ เพื่อความเข้าใจในสถานการณ์โลก แล้วปรับตัวให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
เศรษฐกิจโลกคือ
ระบบเศรษฐกิจโลกมีกฎเกณฑ์การค้าที่เน้นตลาดเสรีและการแข่งขันที่เป็นธรรม มีระบบ การเงินที่ช่วยให้การประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ มีระบบการลงทุนข้ามชาติที่ นักลงทุนเกิดความมั่นใจ แม้ว่าแต่ละประเทศจะใช้ระเบียบกฎเกณฑ์ของตนเองเพื่อควบคุม เศรษฐกิจภายใน แต่เมื่อเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ธนาคารโลกคือ
ธนาคารโลกเปรียบเสมือนสหกรณ์ที่ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิก 189 ประเทศ ประเทศสมาชิกหรือผู้ถือหุ้นเหล่านี้เป็นตัวแทนของคณะกรรมการ ผู้ว่าการซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายขั้นสูงสุดที่ธนาคารโลก โดยทั่วไปแล้วผู้ว่าการจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังหรือรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาของประเทศ โดยพวกเขาจะพบหรือประชุมกันปีละหนึ่งครั้ง ในการประชุมประจำปีของคณธกรรมการกลุ่มธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกลดเหลือ 1.7%
รายงานระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงจนถึงระดับใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากเผชิญผลกระทบเชิงลบ อาทิ อัตราเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น การลงทุนที่ซบเซา และวิกฤติการสู้รบที่ยืดเยื้อในยูเครน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการบังคับใช้นโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นแบบพร้อมเพรียงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก ตลอดจนสภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่ลง ความเชื่อมั่นที่ลดลง และการหยุดชะงักของอุปทานพลังงาน อย่างไรก็ดีในปี 2567 เศรษฐกิจทั่วโลกจะดำเนินไปตามเป้าสู่การเติบโตที่ร้อยละ 2.7 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกลดเหลือ 1.7%
การคาดการของความเสี่ยงภาวะถดถอยเศรษฐกิจโลกลดเหลือ 1.7%
รายงานฉบับนี้คาดการณ์ว่า การเติบโตของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 0.5 ในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิถุนายน 1.7 จุด ขณะตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ ถูกปรับลด 1.9 จุด เหลืออยู่ที่ร้อยละ 0.5 ซึ่งเป็นตัวเลขระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ยุคปีคศ. 1970 หากไม่นับรวมช่วงภาวะถดถอย ส่วนเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนมีแนวโน้มเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 0 ลดลง 1.9 จุด จากการคาดการณ์ครั้งก่อน ขณะเดียวกัน ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 3.4 ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ในเดือนมิถุนายน 0.8 จุด
จากรายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 กลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ฉบับล่าสุดที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 1.7 ในปี 2566 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว 1.3 จุด และนับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดเป็นอันดับ 3 ในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นเรื่องยากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนครั้งแต่ก่อน