ผลกระทบของเศรษฐกิจโลกถดถอย ที่กำลังแพร่ขยายไปทั่วทุกมุมโลกขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม และยังกระทบต่อตลาดหุ้นของแต่ละประเทศ รวมไปถึงการลงทุนในทองคำ โดยราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงอีก ซึ่งประเทศไทยของเราก็ได้รับผลกระทบในการลงทุนในหุ้นและทองคำไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะระบบเศรษฐกิจการลงทุนต่างๆ สามารถเชื่อมโยงกันได้ในทุกแง่มุม
ในปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนไม่แน่นอน ดัชนี SET Index ไม่ผ่าน 1600 จุด แต่กลับปรับตัวลง นักวิเคราะห์สถาบันต่างๆ ให้น้ำหนักไปในทิศทางลงด้วยความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของโลก และเหตุผลหลายประการดังจะกล่าวต่อไปนี้คือ
1. เศรษฐกิจของประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดการชะลอตัว
จากที่เคยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวและเจริญเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของโลกต่อเนื่องมาหลายปี บัดนี้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเริ่มหยุดชะงัก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจีนเจริญเติบโตเร็วเกินไป จึงทำให้หยุดชะงัก และการหยุดชะงักนั้นส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของโลก เพราะประเทศจีนมีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ เป็นคู่ค้าสำคัญกับประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นคู่ค้าสำคัญกับสหภาพยุโรปด้วย ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจแย่ลง ก็ยิ่งส่งผลกระทบอย่างหนักไปด้วย จึงต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
2. คาดการณ์ว่าการขยับฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะเป็นไปได้ในทิศทางใด
โดยธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะประกาศปรับดอกเบี้ยขึ้นไปที่ละ 0.25% ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบการเงินของโลกที่กระแสเงินจะไหลไปที่สหรัฐ โดยก่อนหน้านั้นนักลงทุนได้นำเงินออกจากประเทศไทยตั้งแต่ ปี พ.ศ.2558 และยังมีเงินทุนไหลออกไปอีกอย่างต่อเนื่อง และยังมีผลต่อราคาทองคำที่อาจลดลงถึง 1000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
3. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตึงเครียด อาจก่อให้เกิดสงครามในที่ต่างๆได้
ซื่งไม่มีใครสามารถคาดเดาถูก อาทิเช่นในตะวันออกกลางประเทศอิรัก อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย อัฟกานิสถาน ในทะเลจีนใต้ก็มีประเทศจีน เวียดนาม ใต้หวัน ฟิลิฟปินส์ ที่ต่างเผชิญหน้ากัน เพื่อที่จะมีอิทธิพลเหนือหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ที่ยังไม่มีเขตแดนเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นของประเทศใด คาบสมุทรเกาหลีก็ยังมีการกระทบกระทั่งกันอยู่ตลอดเวลาโดยประเทศเกาหลีเหนือยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อประเทศเกาหลีใต้อย่างไม่กลัวเกรงชาติมหาอำนาจอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่ และกลุ่มประเทศที่แยกออกจากสหภาพโซเวียดก็ยังมีทีท่าทีจะมีปัญหากันอยู่ไม่วันไดก็วันหนึ่ง
4. ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับขึ้น
ประเทศที่ส่งออกน้ำมันได้รับความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เช่น ซาอุดิอาระเบีย ที่ขาดดุลการค้าเป็น แสนล้านเหรียญ รวมถึงปัญหาการก่อการร้ายและสงครามที่ประเทศซีเรียกับกลุ่มหัวรุนแรง IS นับว่าส่งผลกระทบรุนแรงสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการต่างๆ แต่ในทางกลับกัน กลับเป็นผลดีต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่ถูกลง
5. การเมืองภายในประเทศมีความเสี่ยง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองมากขึ้น
ทั้งในเรื่องการผ่านมติของการร่างรัฐธรรมนูญ และกลุ่มที่ไม่พอใจในเหตุการณ์ราคายางที่ตกต่ำอย่างมาก ที่ทำให้ชาวสวนยางที่ภาคให้รวมตัวกันเรียกร้องขอขึ้นราคายาง เพราะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นับเป็นผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งก็ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย และราคาทองคำอีกด้วย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไทยจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน
นักวิเคราะห์แนะนำให้ลงทุนในอุตสาหกรรมที่ยังคงโดดเด่น เช่น กลุ่มโรงพยาบาลที่ชาวต่างชาติในกลุ่มตะวันออกกลางที่มีรายได้สูงยังคงเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ยังคงสดใส รวมไปถึงกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สถานบริการต่างๆ ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในเมืองไทย นักลงทุนจึงสามารถมั่นใจได้ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปได้
สิงที่กล่าวมานี้บางเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต และบางเหตุการณ์ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องจับตาดู ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงขึ้น ตลาดหุ้นไทยและทองคำย่อมได้รับผลการทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น