ระบบการเงินทุกวันนี้ที่ว่าแย่แล้วในอนาคตวันข้างหน้า ในยุคเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวแบบนี้ไม่อยากพูดถึงเลย ทั้งนี้ด้วยความจำเป็น หรือการฟุ้มเฟ้อของคนเราทำให้หลายต่อหลายคนไม่สามารถอยู่ภายใต้กรอบเงินที่จำกัดได้ จะทำอย่างไรได้ล่ะ ต้องมีการจัดการกับตัวเองอย่างเร่งด่วน รีบจัดการเสียกับปัญหาต่างๆหรือภาระที่ต้องรับผิดชอบ วันนี้เพียงเท่านี้ วันข้างหน้าคุณจะต้องพบกับอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายเลยล่ะ วันนี้มาดูสิ่งที่ต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้กันดีกว่า ว่ามีอะไรที่เราเองต้องทำการเตรียมใจไว้บ้าง
ความย่ำแย่ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว
การชะลอตัวของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในหลายประเทศ อย่างที่ทราบ องค์กรระหว่างประเทศทั้งไอเอ็มเอฟ ธนาคารโลก และเอดีบี เป็นผลที่ทำให้เกิดความวุ่นวายต่างๆมากมายที่บอกได้เลยว่านี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นของปัญหาในระบบการเงินต่างๆมากมาย เนื่องจากองค์กรเหล่านี้ได้ทำการปรับประมาณการการขยายตัวของ เศรษฐกิจโลก ลงเหลือประมาณร้อยละ 2.5 ถึง 3.3 จากที่มองว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจยุโรปที่ปีนี้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย คือ ขยายตัวติดลบ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั่ว ทำให้เศรษฐกิจทั้งในประเทศอุตสาหกรรมและประเทศตลาดเกิดใหม่จะขยายตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจโลกปีหน้าอาจชะลอต่อเนื่อง หรือเข้าสู่ภาวะถดถอย ถ้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวไม่มีการผลักดัน หรือมีไม่มากพอ ความเสี่ยงขณะนี้ก็คือ ความเข้มแข็งของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เชื่อได้เลยว่าอีกนานเลยล่ะที่จะสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้นระบบการเงินจะต้องมีความผันผวนแบบนี้ไปอีกสักพัก
ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุโรปกับผลลัพธ์สู่ระบบการเงิน
สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรปนั้นได้ลากยาวมานานมาก นี่ก็เข้า 4 ปีแล้วยังไร้วี่แววการแก้ไข หรือยุติกับปัญหาเหล่านั้น ถึงแม้ว่าประเทศในกลุ่มยุโรปเองพยายามที่จะทำการแก้ไข้ข้อบกพร่อง และรักษาซึ่งระบบเงินยูไรไว้ก็ตาม โดยอาจจะอาศัยความเข้มแข็งให้กับการรวมตัวทางการเงิน และการคลังเพื่อให้สมาชิกมีความสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจเรื่องการคงสภาพเงินยูโร ด้วยการกับดูแลธนาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือด้านการคลัง จะเห็นได้เลยว่าการปรับปรุง หรือแก้ไขปัญหาเหล่านั้นมีช่วงเวลาหนึ่งที่มีประกาสออกมาว่าทางยุโรปเองจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง เพื่อที่ให้เหล่าประเทศต่างๆเกิดความวางใจในการลงทุน และการเพิ่มสภาพความคล่องตัว ซึ่งตอนนั้นเห็นได้ชัดเลยแนวโน้มในการลงทุนและความมั่นใจสำหรับนักลงทุนได้ชัดเจน และปัญหาก็แทบจะยุติแล้ว แต่ด้วยความไม่ลงตัวของในประเทศกรีซและสเปน ทีมีความล่าช้าอยู่มาก ฝ่ายการเมืองไม่เร่งแก้ไข จึงส่งผลให้ปัญหาของยุโรปลากยาวไปอีกด้วย และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด เพราะไร้แนวทางว่าจะมีนโยบายเพื่อมาแก้ไข จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทุกวันนี้ได้เต็มไปด้วยระบบเงินที่ไม่แน่นอน เพราะมีความตกต่ำของเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดอยู่นั่นเอง
ความผันผวนของระบบการเงินใน เศรษฐกิจโลก
ต้นตอที่แท้จริงของระบบการเงินที่ผันผวนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเศรษฐกิจโลกเกิดความไม่แน่นอน ถ้าเศรษฐกิจโลกจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน คือ ขยายตัวต่ำ อัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีความผันผวนในตลาดการเงินสูง ผลกระทบสำคัญจะมีสองประเด็น คือ หนึ่ง ผลของการขยายตัวต่ำต่อประเทศอื่นๆ ที่จะทำให้รูปแบบของการใช้การค้าระหว่างประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำได้ยากขึ้น ดังนั้น หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียคงต้องหันมาพึ่งการใช้จ่ายในประเทศ สินค้าส่งออกอาจต้องมีการชะงัก จะเข้าสู่กระบวนการข้าวยากหมากแพง และรายได้ที่มาจากภายนอกที่ลดลง และการกระตุ้นโดยนโยบายในประเทศ เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทน คำถามที่ตามมาก็คือ ประเทศที่ต้องใช้การใช้จ่ายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะทำอย่างไร ที่จะป้องกันไม่ให้การขับเคลื่อนดังกล่าวสร้างความเสี่ยงเป็นอย่างมากสำหรับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาการขาดดุลต่างๆ มีการนำเข้ามากกว่าส่งอออก มีการซื้อมากกว่าขาย สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเราคือการขาดทุนทรัพย์นั่นเองค่ะ และแล้วปัญหาหนี้ก็จะมีตามมาจากการเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชน ทุกวันนี้เห็นได้เลยว่าคนในประเทศมีความฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักเก็บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแน่นอนที่สุดเลยเมื่อถึงเวลาอีกไม่กี่ข้างหน้านั้นผลจากการสำรวจว่าจะมีผู้ทีเป็นหนี้เป็นจำนวนทีไม่น้อยเลยล่ะ
อ่านเพิ่มเติม : เศรษฐกิจโลกปี 2559 ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย อย่างไรบ้าง ?