ลองคิดกันเล่นๆ กับกระแสพูดคุยตามสื่อโซเชี่ยลต่างๆ ที่กำลังพูดถึงเรื่อง สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่สืบเนื่องมาจาก จีน และ รัสเซีย รวมถึง เกาหลีเหนือ ที่ประกาศในตอนที่มีการประชุมที่ UN ว่าจะให้การช่วยเหลือ ประเทศซีเรียต่อต้านกลุ่ม กบฏไอซิส ซึ่งมีข่าวลือว่าเบื้องหลังกลุ่มกบฏไอซิส นั้นคือสหรัฐอเมริกา และ กลุ่มอียู ซึ่งไม่ใช่แค่สงครามที่มีการรบ แต่ หมายถึงสงครามทางเศรษฐกิจด้วย ที่ตอนนี้เห็นกันอยู่ว่า หลายๆประเทศยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเหล่านี้ไม่ค่อยไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเป็นกันหลายประเทศ รวมทั้งประเทศเราเองด้วย
จึงอยากให้ลองคิดดูว่า หากเกิดสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 3 ทั้งด้านการรบ และ สงครามเศรษฐกิจ เราต้องทำอย่างไร และ ควรเตรียมตัวอย่างไร เราลองมามโนกันเล่นๆ เพราะมันมีแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นจริง อย่างแรกที่เราต้องเตรียมแม้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดสงครามคือ
เงินสดๆ
เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญเพราะไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะไหนเงินสด คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และแน่นอนว่าการเก็บเงินไว้กับตัวหรือในบ้านก็ไม่ปล่อยภัย ดังนั้นการเก็บเงินออมสำหรับกรณีฉุกเฉิน โดยแยกเป็นบัญชีที่ฝากถอนได้สะดวก เช่น มีบัตรเอทีเอ็ม หรือ เป็นบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา ก็เป็นทางออกที่ดีเพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถถอนออกได้ทันที หรือ อาจจะเก็บเงินสดไว้ที่บ้านสักส่วนหนึ่งเผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้มีเงินสำรองทันท่วงที
อ่านเพิ่มเติม >>> ความสำคัญใน การออมเงิน <<<
ข้าวสารอาหารแห้ง
แน่นอนว่าในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้เริ่มมีราคาสูงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ราคาขยับขึ้นบ่อยๆโดยที่เราไม่รู้สึกมาหลายครั้งแล้ว แม้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม ดังนั้นหากมีภาวะสงครามข้าวยากหมากแพงเหมือนสมัยก่อน เงินที่มีอาจจะหาซื้อข้าวและอาหารแห้งไม่ได้เพราะมันไม่มีขาย ดังนั้นภายในบ้านการมีข้าวสารอาหารแห้งนั้นเป็นเรื่องปรกติซึ่งหลายๆบ้านมักซื้อตุนๆไว้อย่างน้อยๆวันไหนขี้เกียจไปหาซื้อของสดมาทำทานก็ยังมีของแห้งเหล่านี้มาดัดแปลงทำอาหารได้ แต่หากใครไม่ตุนไว้ก็ควรซื้อๆติดไว้บ้าง ไม่ต้องขนซื้อมากมายแค่มีไว้บ้างหรือซื้อให้มากกว่าเดิมเล็กน้อยหากเจอข้าวสารอาหารแห้งลดราคา เพราะของพวกนี้เก็บไว้ได้นาน เช่นข้าวสาร อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอื่นๆ ที่สามารถใช้ทำอาหารทานได้
น้ำดื่มและยารักษาโรค
น้ำสะอาดและยารักษาโรค เป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะสภาวะไหน แม้ยามปรกติทั้งสองอย่างก็เป็นของที่ต้องมีติดบ้าน การเก็บกักน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งก็มีความจำเป็นแม้ว่าบางคนจะอยู่ในเมืองหลวงก็ตาม เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าเมื่อฤดูแล้ง น้ำเริ่มมีน้อยลงในบางแห่งน้ำไม่พอใช้ซึ่งบางแห่งนั้นอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลย ดังนั้นภายในบ้านควรมีการเก็บน้ำไว้ใช้บ้าง แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ฤดูแล้งบ้านเรานั้นเริ่มแล้งมากขึ้นไม่แน่อาจจะมีสักครั้งที่กรุงเทพไม่มีน้ำให้พอใช้ ต้องแบ่งโซนเหมือนตามต่างจังหวัด ส่วนยารักษาโรคนั้นเป็นอะไรที่ต้องมีติดบ้านกันอยู่แล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมียาแก้ปวด ยาทาแผล หรือ ยาประจำตัวของคนในบ้าน ซึ่งบางบ้านจะมีการเตรียมเรื่องนี้ไว้เสมอ โดยการมีตู้ยาประจำบ้าน และ หมั่นตรวจสอบยาบ่อยๆว่าหมดอายุไหม หรือ ยาตัวไหนที่ไม่มีก็จัดเตรียมไว้ให้พร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อ
ที่กล่าวมาเป็นปัจจัยพื้นฐานของการเตรียมพร้อมไม่ว่าจะโลกจะอยู่ในสภาวะไหน และ แม้ว่าจะเป็นการลองคิดลองจินตนาการว่าหากเกิดขึ้นเราจะอยู่อย่างไร ประเทศของเราจะก้าวไปแบบไหน และ เราจะต้องเจอกับอะไร
แม้ว่าหลายคนจะคิดว่านี่เป็นการมโน แต่สำหรับเหตุการณ์ต่างๆ จากทั่วโลกที่ผ่านมาในระยะ 5-10 ปีที่ผ่านมาคงพอบอกได้ว่า อย่างน้อยตอนนี้โลกกำลังเผชิญกับสงครามจากธรรมชาติหลายๆแห่งเกิดภัยพิบัติ ทั้งๆที่มันไม่เคยเกิดขึ้น หรือ เกิดขึ้นมานับร้อยปีธรรมชาติเริ่มประกาศสงครามกับมนุษย์ และ มนุษย์ก็ประกาศสงครามกันเอง ทั้งการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ สร้างสงครามศาสนา และ นำมาสู่สงครามแห่งความโลภ นั่นคือ สงครามทางเศรษฐกิจ
ที่มีวิธีที่หลากหลายเพื่อทำลายเศรษฐกิจของประเทศคู่แข่ง และ การแย่งชิงจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลกเช่น บ่อน้ำมัน ทางออกทะเล หรือ อื่นๆโดยใช้วิธีทางการเมือง เศรษฐกิจ บีบบังคับทางการทูต ซึ่งหากติดตามข่าวสารต่างๆคงจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
ทั้งหมดนี้เราไม่ได้บอกให้คุณกลัว แต่แค่อยากให้คุณมีความพร้อมกับการรับมือหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าคนยุคนี้ไม่รู้หรอกว่าความน่ากลัว ความลำบาก ความยากแค้น ของการอยู่ในภาวะสงครามเป็นอย่างไร ไว้ผู้เขียนจะนำประสบการณ์ของคนที่เคยอยู่ในยุคสงครามมาเล่าให้ฟัง รับรองว่าคุณจะไม่อยากเจอแน่ๆ