Ingvar Kamprad (อิงวาร์ด คัมพราด) มหาเศรษฐีผู้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เขาคนนี้คือเจ้าของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดน IKEA แบรนด์ต่างชาติน้องใหม่ในประเทศไทยที่กำลังเขย่าเก้าอี้ร้านเฟอร์นิเจอร์เจ้าตลาดอยู่ในขณะนี้ ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ IKEA ที่โดดเด่นในเรื่องความเรียบง่ายของดีไซน์การออกแบบสินค้าบวกกับประโยชน์ใช้สอยที่มาพร้อมแพคเกจจิ้งแบน ๆ ทำให้เรื่องการขนย้ายเป็นเรื่องง่าย ๆ นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดและเรียกให้ลูกค้าหันมาเยี่ยมชมและสนใจงานเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA กันมากขึ้น นอกจากความดังความแรงตามกระแสแบรนด์ระดับโลกแล้ว IKEA ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อให้กับประเทศสวีเดนรอง ๆ จากแบรนด์รถยนต์หรูวอลโว่ และวงดนตรี ABBA อีกซะด้วย ความยิ่งใหญ่และความนิยมในสินค้าของแบรนด์นี้ สามารถวัดได้จากจำนวนสาขาของ IKEA ที่ขยายไปทั่วโลกทั้งในยุโรป, อเมริกา และ โซนเอเซียค่ะ
ในส่วนของ กลยุทธ์ธุรกิจ ด้านการจัดวางทำเลที่ตั้งนั้น IKEA มีแบบแผนที่ชัดเจนว่าต้องการพื้นที่ห้างเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่แถบชานเมืองในไม่ว่าเขาจะไปลงทุนเปิดสาขาที่ประเทศไหนก็ตาม เพราะการจัดการระบบสินค้าของ IKEA จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของห้างขนาดใหญ่ โดยสาขาที่เปิดขึ้นในประเทศไทยนั้น IKEA ใช้พื้นที่มากถึง 4 หมื่นตารางเมตร และเป็นขนาดห้างเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่กว่าสาขาในประเทศมาเลเซียและประเทศสิงคโปร์ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้สาขาในประเทศไทยกลายเป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยค่ะ นอกจากความยิ่งใหญ่ของขนาดพื้นที่อาณาจักร IKEA ที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตาแล้ว ประสบการณ์ที่ IKEA แทรกเอาไว้ระหว่างสินค้าเฟอร์นิเจอร์ก็คือ ความใกล้ชิดระหว่างลูกค้ากับ แบรนด์ IKEA ขณะที่ลูกค้ากำลังประกอบเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA อยู่ที่บ้าน ลูกค้าก็จะรู้สึกเหมือนกับกำลังนั่งต่อชิ้นงานประเภท DIY ที่เขามีส่วนรวมในความสำเร็จของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น ๆ ไปด้วย ครั้งหนึ่ง Ingvar Kamprad เคยอธิบายถึงมุมมองของเขากับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไว้ได้อย่างงดงามว่า
“การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ราคาพันเหรียญสหรัฐนั้นไม่มีอะไรยากหรอก แต่การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ราคาห้าสิบดอลลาร์ให้ดูดีและสามารถใช้สอยประโยชน์ได้จริง นี่ต่างหากคือความท้าทาย”
จึงไม่แปลกที่ IKEA จะเลือกชูแนวคิดที่ว่า ต้องการให้ความเป็นอยู่ที่ดีกับทุกคนด้วยการเสนอเฟอร์นิเจอร์คุณภาพ, ทันสมัยและราคาไม่แพงค่ะ
นอกจากมุมมองเรื่อง กลยุทธ์ธุรกิจ การตั้งราคาและการออกแบบสินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ได้เป็นอย่างดีแล้ว IKEA ยังเป็นแบรนด์สินค้ารายแรกที่สร้างวัฒนธรรมการขายเฟอร์นิเจอร์ในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งจะเป็นการสร้างประสบการณ์แบบเดียวกันโดยที่ลูกค้าจะสามารถสัมผัสได้จากทุกสาขาที่มีจำนวนมากกว่า 330 สาขา ใน 38 ประเทศทั่วโลกค่ะ ลักษณะการขายสินค้าของ IKEA นั้นจะเน้นไปทาง Self Serve หรือก็คือการบริการตัวเองเป็นหลัก ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ตามมาตรฐานของแบรนด์ IKEA ที่ได้รับการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่ารูปแบบการขายลักษณะนี้สอดคล้องกับราคาขายของสินค้าแบรนด์ IKEA อยู่แล้วค่ะ อย่างที่ IKEA ได้สื่อกับลูกค้าของเขาว่า
“You do your part. We do our part. Together we save money.” เป็นการส่งความนัยที่ชัดเจนว่า “คุณทำในส่วนของคุณ เราทำในหน้าที่ของเรา เพื่อให้ได้ราคาสินค้าที่ย่อมเยา และเราจะประหยัดไปด้วยกัน”
นิยามที่ว่า “คุณทำในส่วนของคุณ” ก็คือ ลูกค้าสามารถเริ่มต้นสัมผัสประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าแบบใหม่และง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนเล็กน้อย เริ่มจากลูกค้าเลือกชมสินค้าที่สนใจภายในโชว์รูมของ IKEA ด้วยตนเอง พร้อม ๆ กับจดรหัสสินค้าที่ต้องการไปด้วย เมื่อตัดสินใจเลือกได้แล้วก็ค่อยเดินไปหยิบสินค้าจากชั้นวางใน Self Serve Store ก็เป็นอันเรียบร้อย ส่วนที่เหลือลูกค้าก็สามารถนำเฟอร์นิเจอร์ที่บรรจุอยู่ในกล่องแบน ๆ เคลื่อนย้านและขนถ่ายได้ง่าย ๆ กลับบ้านไปประกอบเป็นชิ้นเฟอร์นิเจอร์เก๋ ๆ ด้วยตัวเอง สร้างความภาคภูมิใจและได้ความรู้สึกมีส่วนรวมในการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ราคาสบายกระเป๋าของลูกค้า และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนของ IKEA ไปได้ส่วนหนึ่ง ทำให้แบรนด์สามารถเสนอเฟอร์นิเจอร์ราคาเบา ๆ ได้ต่อไป
ส่วนนิยามที่บอกว่า “เราทำในส่วนหน้าที่ของเรา” ก็หมายถึง การที่ IKEA จะมุ่งมั่นออกแบบสินค้าให้โดนใจ ดีไซน์สวยดูดี คุ้มค่าการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยด้วยวัสดุคุณภาพ และรวมไปถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดแบนเรียบ สะดวกในการขนย้าย เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป ตลอดจนการรู้จักเลือกเฟ้นหาซัพพลายเออร์ที่มีวัสดุดีเหมาะสมกับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่อ ๆ ไป จากรูปแบบกลยุทธ์สร้างวัฒนธรรมการซื้อขายแบบฉบับของ IKEA ส่งผลให้ราคาเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ถูกกว่าของคู่แข่งมากราว ๆ 10 – 20% เลยทีเดียว กลไกทางการตลาดที่ทำให้ IKEA สามารถเติบโตมายาวนานกว่า 60 ปีนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ลูกค้าก็ได้ซึมซับแนวคิดเรียบง่ายแต่ดูดีของ IKEA เข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้ลูกค้ามีทัศนคติตรงกับแบรนด์ว่าการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม, ราคาไม่แพงและใช้งานได้คุ้มค่านั้น ก็สามารถทำให้บ้านของตนดูดี มีสไตล์ได้เช่นกันค่ะ