คุณเองก็น่าจะเป็นอีกคนหนึ่งที่หวังให้ลูกนั้น มีภาวะการเงินที่ดีและพอใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ทั้งนี้การสอนการใช้จ่ายเงินตั้งแต่เจ้าตัวน้อยยังเด็กนั้นถือว่าเป็นวิธีที่ดี ที่เหมาะกับการฝึกนิสัยให้เขาได้รู้จักการ ใช้เงิน ได้อย่างถูกวิธีการ ส่งเสริมให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน ความลำบากของการที่จะได้เงินมาใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ เรามีครอบครัวที่ไม่ได้สอนลูกให้เป็นตัวอย่างแถมยังส่งเสริมการ ใช้เงิน ของลูกอย่างผิดๆซึ่งเรามีตัวอย่างที่น่าสนใจดังนี้
มีครอบครัวหนึ่งนั้น ประกอบไปด้วยพ่อและแม่ ลูกสาวและลูกชายสองคน พวกเขานั้นในช่วงที่ลูกๆของเขายังเล็กๆอยู่ มีฐานะยากจนแต่ถึงกับไม่มาก ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากญาติอยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่ง ครอบครัวนี้มีฐานะที่ดีขึ้น จนผิดหูผิดตา (แต่ไม่ได้ทำงานผิดกฎหมายหรอกนะ)ทั้งนี้เขาก็ยังมีมิตรไมตรีจิตช่วยเหลือแบ่งปันเงินทองให้คนรอบข้างอยู่ครั้งคราว แต่ทว่า เขามีนิสัยทางด้านการเงินที่แย่ กล่าวคือ ไม่มีการวางแผนให้ดี เลี้ยงลูกตามใจมากกว่าเดิม อะไรอะไรก็ซื้อมาให้ไม่ว่าจะแพงมากมายขนาดไหนก็ตามที ลูกที่ไม่ได้ถูกอบรมในการใช้เงินก็กระหน่ำใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย โดยลืมนึกไปว่า เงินที่ได้มานั้นจะต้องมีวันหมดลดลงไป
จนกระทั่งถึงวันนั้นจริงๆ ที่เงินของครอบครัวนี้หมดลง แต่ครอบครัวนี้ยังคงจมไม่ลง ยังคงแสดงว่าฉันมีเงินใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดบ้านของเขาไม่มีแม้กระทั่งข้าวสารหรืออาหารใดๆ กลับไปเป็นสถานะความยากจน ที่จนยิ่งกว่าเสียอีก
นี่คือตัวอย่างที่ไม่สมควรนำเอามาเป็นเยี่ยงอย่างในการดำเนินชีวิต ถือว่าเป็นเส้นทางที่พ่อแม่นั้นขีดและสั่งสอนการใช้เงินอย่างผิดๆ ก่อให้เกิดผลเสียที่ตามมาอย่างมากมาย การสอนให้ลูกรู้จักการ ใช้เงิน ให้ถูกต้องและรู้จักใช้อย่างไม่สุรุ่ยสุร่ายนั้น ถือว่าควรที่จะกระทำตั้งแต่แรกเริ่มที่ลูกพอจะเริ่มเรียนรู้อะไรได้บ้างเกี่ยวกับการใช้เงินแล้ว ทั้งนี้ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้ว่าจะทำการสอนสั่งลูกของเราอย่างไรกันดี วันนี้เรามีคำตอบ หรือ ชี้แนะนำแนวทางให้คุณลองเอาไปฝึกเจ้าตัวน้อยกันดูค่ะ
สอนให้เขารู้จักเงินเสียก่อน
ขั้นแรกของการเรียนรู้นั้น คือการสอนสั่งให้เขารู้จักการ ใช้เงินตราในมืออย่างคุ้มค่าที่สุด แน่นอนว่าการสอนให้เขาได้รู้จักเงินในมือนั้นคือการเริ่มต้นสอนวิธีการใช้มัน อย่างสมมุติว่า คุณให้ลูกฝนจำนวนเงิน 5 บาท ลูกเอาซื้อของเล่นจนหมดกลับมาหาคุณแล้วอยากจะกินอีก คุณต้องสอนว่า เงินที่ให้ไปนั้นสำหรับวันนี้หมดแล้ว เพราะลูกไม่รู้จักแบ่งเงินในมือให้ดีลูกจึงได้แค่ของเล่นแต่ขนมไม่ได้กินไง(ช่วงนี้อย่าตามใจลูกนัก ถึงแม้ลูกจะงอแงแค่ไหนก็เถอะ)ฝึกอย่างนี้ไปเรื่อย เขาจะมีนิสัยการบริหารเงินที่ดีขึ้น ซึ่งในช่วงเวลานี้คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมสอดแทรกคำสอนในเรื่องการออมเข้าไปด้วยละ อาจจะตั้งเป้าหมายไว้ว่า ถ้าลูกออมเท่านี้ ลูกก็จะสามารถเอาเงินออมนั้นไปซื้อของเล่นราคาแพงที่อยากได้
สอนให้หัดทำมาค้าขาย
หากอยากจะให้สอนการใช้เงินและการรู้จักคุณค่าของเงินในมือเขานั้น วิธีนี้แหละคือวิธีที่ดีที่สุดวิธีการหนึ่ง ซึ่งเราอาจจะเป็นผู้ลงทุนให้กับลูกเล็กน้อย เช่น ซื้อขนมมาให้ลูกนำไปขายต่อ ให้เขาได้รู้ว่าการหาเงินมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นช่างยากเย็นแค่ไหน เพียงเท่านี้เขาจะเริ่มรู้สึกเสียได้เมื่อต้องใช้เงินที่เหนื่อยข่ายของหลังเลิกเรียนมา เขาจะเริ่มรู้จักวิธีการวางแผนบริหารเงินได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยฝึกทักษะอาชีพให้กับเขาด้วยนะ
ซึ่งในอนาคตเขาจะสามารถทำงานหาเงินได้โดยไม่ลำบากเลยล่ะ หรือหากคุณมีอาชีพอื่นๆ ก็อาจจะหัดให้เขาทำก็ได้ เช่นกรีดยาง ก็พาเขาไปเก็บน้ำยางโดยให้ค่าจ้างเขา หรืองานอื่นๆ ก็ควรที่จะหัดให้เขาได้ทำบ้าง อย่าคิดว่าเขายังเด็กเกินไปมีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือเท่านั้น เพราะหากเขาไม่มีทักษะและประสบการณ์ในการทำงานเลย ก็จะทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างลำบากและหางานได้ยากในอนาคตข้างหน้านั่นเอง
สอนให้เขาเห็นถึงสิ่งที่ตามมาเมื่อยใช้จ่ายเงินอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
คุณต้องแนะนำและต้องคอยเตือนว่า การใช้เงินอย่างไม่รู้จักเก็บออมนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเลยถ้าอยากมีชีวิตสุขสบาย ต้องลองยกตัวอย่างของการใช้เงินแบบไม่ยั้งคิดมาสักหนึ่งหัวข้อ และคอยเตือนบอกเสมอว่าหากบางสิ่งบางอย่างไม่จำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายก็ตัดมันทิ้งออกไปซะ และบอกให้เขารู้จักที่จะนำเงินมาเก็บออมเสียบ้าง นอกจากนี้ควรอธิบายให้เขาฟังอยู่บ่อยๆ ว่าออมเงินเพื่ออะไรและเขาจะได้อะไรจากการออมเงิน เพื่อให้เขารู้สึกอยากออมเงินมากขึ้น
แค่นี้ ลูกของคุณก็จะรู้จักการใช้เงินอย่างชาญฉลาดตั้งแต่เล็กๆแล้วล่ะ! แถมยังทำให้เขามีทักษะชีวิตและรู้จักเก็บออมเงินด้วยนะ รับรองว่าในอนาคตลูกน้อยของคุณจะไม่ลำบากแน่นอน