ตั้งแต่ต้นปีมาเรื่อย เรื่อย เราจะเห็นว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของบ้านเรา หรือ SET Index แนวโน้มจะเป็นขาลงมาตลอด เนื่องจากเหตุการณ์ภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน หรือจะเป็นนโยบายต่างๆ ภายในประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาหุ้นในบ้านเราไม่มากก็น้อย และถ้าหุ้นที่เราถืออยู่แนวโน้มมีราคาตกลงล่ะ เราจะทำยังไง…
ก่อนอื่นเราต้องตามคำถามให้กับตัวเองก่อนว่า...ทำไมเราถึงซื้อหุ้นของบริษัทนี้….ซื้อตามเพื่อน ซื้อตามเซียนหุ้นในตลาด ซื้อตามคำแนะนำของ Marketing หรือซื้อเพราะตามกระแสที่ได้ยินแว่วมาว่าราคาหุ้นของบริษัทจะดี เพราะได้ข่าวมาว่าบริษัทกำลังจะมีรายได้ก้อนใหญ่ กำลังจะมีออร์เดอร์จากรายใหญ่ ซึ่งเป็นเฉพาะแค่ช่วงเวลาเดียวที่เราได้ยินข่าว แต่ในความเป็นจริงบริษัทอาจมีรายได้เข้ามาเพียงไตรมาสเดียว พอไตรมาสถัดไปกลับมีรายได้ลดลง ดังนั้นถ้าเราซื้อตามเพื่อน ตามกระแสข่าว ดังนั้นเวลาจะขายก็ขายตามเหตุผลที่เราซื้อมาเถอะ อย่าไปคิดมาก เพราะตอนซื้อเราก็ไม่ได้คิด ดังนั้นตอนขายก็อย่าคิดมากเหมือนกัน
เรารู้จักหรือเข้าใจหุ้นบริษัทที่ราคากำลังตกอยู่ดีแค่ไหน ถ้าคำตอบคือ เรารู้จักเป็นอย่างดี เรามั่นใจว่าผู้บริหารของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่จะสามารถพาบริษัทผ่าช่วงวิกฤตได้ เราก็ไม่ต้องทำอะไรมากบางทีถ้ามีเงินเหลือเราอาจจะซื้อหุ้นของบริษัทนั้นเพิ่มแทนก็ได้ ….. แต่ส่วนใหญ่คำตอบที่ได้คือ รู้จักบริษัทเพียงเล็กน้อยตอนซื้อหุ้นไม่ได้วิเคราะห์อะไรมากมาย เห็นราคาน่าซื้อก็เลยซื้อ โดยที่ไม่ทำความรู้จักทำความเข้าใจในธุรกิจให้ดีพอ ดังนั้นเมื่อภาวะเศรษฐกิจมีผลกระทบกับบริษัท จึงทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างมาก แต่เราก็ยังไม่มั่นใจมากพอถึงสาเหตุที่แท้จริงที่หุ้นตกราคาลดลงก็เลยยอมขายแบบขาดทุน ทั้งที่จริง จริงแล้วราคาของหุ้นอาจจะกลับมาอีกได้ นี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนขาดทุนหรือหมดตัวกับการเล่นหุ้นได้
และสุดท้าย ก็คือ เราอยากจะถือหุ้นบริษัทนั้นไว้นานแค่ไหน ส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นกันมักจะขายตอนที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นไปสูงมาก มาก ซึ่งนั่นก็สามารถทำให้เรามีกำไรจากการขายหุ้นได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และเราจะทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ถ้าตลาดอยู่ในช่วงขาลงการทำแบบนั้นจะทำให้เรามีแต่ขาดทุน เพราะมีบางคนต้องการกำไรมาก ซื้อมาถือไว้แค่ 2-3 สัปดาห์ก็ขายทิ้ง แต่เผอิญเลือกช่วงจังหวะในการซื้อหุ้นผิด คือ ซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดกำลังขึ้น พอถือไปได้สักพักตลาดกลับเป็นขาลงซะนี่…. ก็เลยต้องจำใจถือหุ้นที่ขาดทุนไว้นานกว่าที่คิด ซึ่งการถือหุ้นระยะสั้น สั้น นั้นเรียกว่าการเก็งกำไร เพราะการลงทุนในหุ้นนั้น หุ้นที่มีพื้นฐานดีจะใช้เวลาในการฟื้นนานสักหน่อย อาจจะ 3-5 ปี ถึงจะกลับมาได้
ดังนั้นสรุปได้ก็คือ ถ้าเรามั่นใจว่าหุ้นของบริษัทที่เราถือครองอยู่นั้นมีปัจจัยพื้นฐานดี หุ้นบริษัทนั้นก็จะสามารถฝ่าฟันช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ไปได้ และราคาก็จะกลับสู่สภาพความเป็นจริงของตัวหุ้นเองได้ เพราะฉะนั้นถ้าราคา หุ้นตก เราก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ทำใจสบาย สบาย รอวันที่ตลาดหุ้นจะกลับสู่สภาพปกติ หรือว่าถ้าเรายังมีเงินเหลือพอ ก็อาจจะลองศึกษาหุ้นของบริษัทที่มีคุณภาพ ซึ่งอาจจะทำให้เราได้ของดีราคาถูกลง เพราะถ้าซื้อในช่วงปกติ หุ้นเหล่านั้นจะมีราคาแพงมากเราอาจจะซื้อไม่ลงก็เป็นไป… แต่ถ้าไม่อยากทำอะไรเลยก็อยู่นิ่ง นิ่ง และรอวันตลาดฟื้นตัว..เท่านั้นเอง