ถึงเวลา ให้เงินทำงานแทนเรา ซักที !

โยโย่ : เธอๆ เราเริ่มมีเงินเหลือเก็บแล้วอ่ะ เอาไปทำอะไรดี

น้าเดช : เงินเหลือก็เอาไปลงทุนสิ รวยแน่ ลงเลยๆ

โยโย่ : เหรอ ลงทุนกับอะไรดีล่ะ

น้าเดช : สมัยนี้ใครๆ เค้าก็เล่นหุ้นกันนะ ผลตอบแทนมากสุดแล้ว ลุยเลย อย่าไปกลัว

คุ้น ๆ มั้ยคะกับบทสนทนาทำนองนี้ หลายท่านอาจจะเคยได้ยิน หรือไม่ก็อาจจะเคยเจอกับตัวเอง ที่น่าตกใจก็คือ มีจำนวนไม่น้อย ที่เชื่อและตัดสินใจลงทุนทันที โดยคิดเพียงแค่ว่าเมื่อมีเงินเหลือเก็บก็ต้องรีบลงทุน โดยไม่สนใจที่จะทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมก่อน จนสุดท้ายก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย

ตัวอย่างของความล้มเหลวจากการเชื่อคนอื่นมากไป จริง ๆ แล้วสามารถพบเห็นอยู่ทั่วไป แต่อาจจะไม่ค่อยชัดเจนนัก เนื่องจากโดยปกติคนมักจะแสดงออกเฉพาะในเวลาที่ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบเท่านั้น โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น

เมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น ใครๆ ก็ได้กำไรจากการเล่นหุ้น status ในหน้า facebook , twitter จะปรากฏแต่ข้อความในแง่บวกแต่เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง ทุกคนจะพร้อมใจปิดปากเงียบ

ทำให้คนส่วนใหญ่มองตลาดหุ้นเป็นขุมเงินขุมทอง ที่ใคร ๆ ก็สามารถกอบโกยเงินทองได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบเห็นหนังสือประเภทการเงินการลงทุนในหุ้น วางเบียดกันอยู่ในชั้นหนังสือ Best seller ในร้านหนังสือแทบจะทุกแห่ง ในขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จจากการเล่นหุ้น กลับยังมีอยู่ไม่มากนักในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามการลงทุนยังเป็นสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต เนื่องจากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้กับภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ข้าวของแพงอยู่เสมอ หากเพียงแค่เก็บเงินไว้กับธนาคาร ดอกเบี้ยที่ได้รับเพียงน้อยนิด อาจจะไม่สามารถเอาชนะราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นทุกวันได้ เพียงแต่ควรใส่ใจใฝ่หาความรู้กันสักนิดก่อนเริ่มลงทุน เงินทองกว่าจะหามาได้ช่างยากลำบาก แต่พอคิดจะลงทุนเรากลับไปเชื่อคนอื่น เมื่อผิดพลาดขึ้นมาไม่มีใครมาร่วมรับผิดชอบกับเรานะคะ

ด้วยข้อมูลที่มีอยู่อย่างล้นเหลือในสื่อต่างๆ ทำให้หลายท่านไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร พาลคิดไปว่าการลงทุนเป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อน และเสียเวลา … ถ้าอย่างนั้น เรามาเริ่มต้น ให้เงินทำงานแทนเรา กันแบบง่าย ๆ จากที่นี่กันเถอะค่ะ

วิธีจัดการเงินออมให้ได้ผลอย่างยั่งยืน

1. วางแผนการเงิน :

ในขั้นนี้ ถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด การวางแผนการเงินที่ดี ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ท่านไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น แต่มันยังช่วยให้ท่านได้ชื่นชมชีวิตในระหว่างทางได้อย่างไร้กังวล มีความสุขได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต คนเราเกิดมาทั้งทีก็ควรจะมีสิทธิ์กำหนดชีวิตของตัวเอง จริงมั้ยคะ

2. ทำความรู้จัก และเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินให้สอดคล้องกับแผน :

สินค้าการเงินมีอยู่หลายประเภท เช่น กองทุน หุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ ประกันชีวิต ประกันภัย LTF RMF ฯลฯ ซึ่งแต่ละประเภท ล้วนมีลักษณะเฉพาะตัว มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันไป ดังนั้นก่อนจะใช้งานตัวไหน  ควรทำความรู้จักพวกมันให้ดีก่อนนะคะ

3. ลงมือ :

เมื่อวางแผนมาดี เลือกสินค้ามาดีแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วค่ะ ลุยเลย

4. ตรวจสอบ :

จริงอยู่ แม้เราจะวางแผนมาดี แต่ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ภายนอก ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจสอบ port การลงทุนของเราให้ดีด้วยนะคะ

การจัดงานเรื่องเงินทอง ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แค่ทำความรู้จัก และจัดการกับมันตามสี่ขั้นตอนง่าย ๆ ชีวิตท่านจะดีขึ้นค่ะ ก่อนอื่น ท่านต้องสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองก่อน

ลองคิดดูสิคะ ในสภาวะเศรษฐกิจลุ่มๆ ดอน ๆ คนส่วนใหญ่กลับสนใจแต่เรื่องของคนอื่น ใครเลิกกับใคร ลูกใครสอบได้สอบตก แต่มองดูตัวท่านสิคะ นอกจากจะมีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือนแล้ว ท่านยังขวนขวายหาความรู้จากบทความเรื่องการเงินการลงทุน นั่นเพราะท่านรักตัวเองมากพอ คนแบบนี้แหละคือคนที่คู่ควรกับความมั่งคั่ง หลายท่านอาจจะท้อใจ มีเงินเก็บก็จริง แต่มันน้อยมากเลยนะ..

อย่าเพิ่งดูถูกเงินน้อยค่ะ เรายังมีตัวช่วยเรื่องดอกเบี้ยทบต้น ที่จะช่วยยกระดับเงินน้อย ๆ ของเราให้มากขึ้นแบบทวีคูณได้ ตราบใดที่ท่านยังรักษาวินัย ออมอย่างสม่ำเสมอ อย่างที่ Albert Einstein บอกไว้

“The most powerful force in the universe is compound interest”

พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล คือพลังดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งจะขยายความให้ได้รู้จักในบทความถัดๆไปค่ะ

จากคำกล่าวที่ว่า “When the student is ready, the teacher will appear” เมื่อใดที่ศิษย์พร้อม อาจารย์จะปรากฎตัว ดังนั้นรีบทำตัวท่านให้พร้อม แล้วหนทางที่จะนำคุณไปสู่สิ่งที่ต้องการจะปรากฏต่อหน้าท่านเองค่ะ

ในบทความถัดไป เราจะเริ่มทำความรู้จักกับส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นคือขั้นตอนของการวางแผนการเงิน อยากมีชีวิตดี๊ดี ต้องติดตามนะคะ