การเล่นหุ้นถ้าจะมองเป็นเกม ก็เรียกว่าเป็นเกมที่คนเล่น จะมีความเครียดที่สูงมากเกมหนึ่ง ในท่ามกลางความเครียดนั้น ก็จะมีบางคนที่มีอารมณ์ขัน เอาความผิดพลาดของตัวเองหรือความผิดพลาดของคนเล่นหุ้นมาพูดมาบรรยายแบบติดตลกหรือเปรียบเปรยไปต่างๆนาๆ เลยที่ให้แวดวงคนเล่นหุ้นมีศัพท์เฉพาะต่างๆที่จะรู้จักกันในหมู่คนเล่นหุ้นเท่านั้น เช่น แมงเม่า ติดดอย ขายหมู ตกรถ ตลาดหมี ตลาดกระทิง เป็นต้น
การเรียกขานนักเล่นหุ้นที่สไตล์ต่างๆ คงไม่มีหลักเกณฑ์หรือข้อบังคับใด ที่จะใช้เรียกอย่างเป็นทางการ คงปล่อยให้ใครจะเรียกขานหรือจัดกลุ่มอย่างไรก็เชิญตามสบาย ปล่อยมุขกันได้เต็มที่ อย่างในหนังสือชื่อ เทมเปิ้ล BOXING คัมภีร์การลงทุนแนว VSOP ได้แบ่งนักเล่นหุ้นออกเป็น 3 สปีชี่ส์ ดังนี้
1 แมลงเม่าหุ้น
นักเล่นหุ้นประเภทนี้ดูจะได้รับเครดิตต่ำที่สุดในบรรดา 3 สปีชี่ เพราะเป็นพวกที่เล่นหุ้นแล้วไม่ยอมจำกัดความโลภของตัวเองให้สมดุลกับความรู้ ซึ่งถ้าไปถามบรรดาแมลงเม่าหุ้นทั้งหลายเหล่านี้ แน่นอนที่สุดว่า ไม่มีแมลงเม่าหุ้นคนไหนยอมรับว่าตัวเองไม่มีความรู้
2 มนุษย์หุ้น
นักเล่นหุ้นประเภทนี้จะตรงกันข้ามกับพวกแมลงเม่าหุ้น เพราะมนุษย์หุ้นนี้จะรู้จักควบคุมความโลภของตัวเองให้สมดุลกับความรู้ที่มี เรียกว่า รู้จักตัวเอง อย่างน้อยการรู้จักตัวเองก็ทำให้ความเสียเปรียบที่จะมีต่อฝ่ายตรงข้ามหายไปครึ่งหนึ่ง เราจะไม่เห็นพฤติกรรมที่เรียกว่าโมโหเกินฝีมือในกลุ่มมนุษย์หุ้นพวกนี้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าความสามารถของตัวเองมีอยู่เท่าไหร่ สมควรที่จะได้รับอะไรมากน้อยแค่ไหน ถือเป็นนักเล่นหุ้นพอที่จะเอาตัวรอกจากตลาดหุ้นได้ระดับหนึ่ง
3 เซียนหุ้น
นักเล่นหุ้นประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณความโลภเพราะเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากันได้กับตลาดหุ้นในทุกสถานการณ์ เหล่าเซียนหุ้นจะพัฒนาระบบการเล่นของตัวเองจนมีความชำนาญและมีลักษณะเฉพาะตัว ที่ไม่สามารถจะลอกเลียนแบบกันได้ เพราะนักเล่นหุ้นแต่ละคนแตกต่างกันทั้งเรื่องของเงินทุนหน้าตักและความสามารถในการรับความเสี่ยง ดังนั้นเทคนิคที่ใช้ได้ดีกับนักเล่นหุ้นคนหนึ่ง จึงอาจไม่เป็นผลดีกับนักเล่นหุ้นอีกคนหนึ่ง เซียนหุ้นเหล่านี้มีประสบการณ์ในการเล่นหุ้นมายาวนาน ผ่านช่วงดีและร้ายของตลาดหุ้นมาหลายรอบ จนสามารถที่จะรับมือกับตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากสปีชี่ส์ของนักเล่นหุ้นทั้ง 3 แบบนี้แล้ว ในหนังสือเล่มเดียวกันนี้ยังได้เปรียบเปรยนักเล่นหุ้นรายย่อยว่าเหมือนกับกระต่าย 3 แบบ คือ
1 พวกกระต่ายตื่นตูม
เปรียบเหมือนนักเล่นหุ้นที่ขี้ตกง่าย มีข่าวร้าย ข่าวลืออะไรขึ้นว่า ไม่สนใจว่าจริงหรือไม่จริงแต่ประการใด พวกนี้จะขายหุ้นทิ้งไว้ก่อนทันที ยิ่งสมัยนี้สื่อออนไลน์ไวยิ่งกว่าจรวด พวกกระตื่นตูมวันๆไม่ต้องทำอะไร มัวแต่กังวลเรื่องข่าว ทั้งข่าวจริง ข่าวไม่จริงเต็มไปหมด
2 พวกกระต่ายตื่นตัว
นิสัยคล้ายๆกับพวกกระต่ายตื่นตูมที่พร้อมจะขายหุ้นทิ้งทันทีที่มีข่าว แต่ดีกว่าตรงที่รู้จักกรองข่าว หรือเสพข่าวอย่างมีสติ ทำให้ไม่ต้องซื้อขายหุ้นแล้วเสียของบ่อยๆเหมือนพวกกระต่ายตื่นตูม สรุปคือพวกกระต่ายตื่นตัวจะพยายามแยกแยะว่า หุ้นลงเพราะข่าวอะไรกันไหน ข้อเท็จจริงของข่าวควรจะส่งผลร้ายต่อหุ้น มากน้อยแค่ไหน จากนั้นจึงตัดสินใจไปตามความคิดผ่านการตรึกตรองหรือคัดกรองในระดับหนึ่งแล้ว
3 พวกกระต่ายเจ้าเล่ห์
พวกนี้ออกจะใช้กลอุบาย หลอกใช้จุดอ่อนของพวกกระต่ายตื่นตูมและกระต่ายตื่นตัว เพื่อให้ได้มาถึงความได้เปรียบและผลประโยชน์ของตัวเอง เรียกว่ามีการวางแผนหลอกล่อ ด้วยเครื่องมือและเครือข่ายที่ตัวเองมี
จะเห็นว่าตัวตลกที่มักมีคนยกตำแหน่งให้ก็คือ รายย่อยและพวกมือใหม่ที่ไร้เดียงสากับตลาดหุ้น แต่ก็เป็นการเรียกขานด้วยความเอ็นดูและเตือนสติ ว่าการเล่นหุ้นไม่ใช่เรื่องง่าย และคนส่วนใหญ่ที่เป็นรายย่อยมักจะเป็นฝ่ายขาดทุนอยู่เสมอ