ปัจจุบันกระแสการเล่นหุ้นเป็นอะไรที่นิยมกันมากพอสมควร ต่างจากสมัย 20 ปีที่แล้ว ที่การเล่นหุ้นมักจะเป็นคนกลุ่มนักธุรกิจ หรือ มีเงินเก็บเยอะๆ จนเรียกว่าเงินเย็น ซึ่งจะเอาเงินก้อนนี้มาซื้อหุ้น โดยผ่านโบรกเกอร์ ที่ไว้ใจได้ และ เปิดพอร์ตกันทีว่ากันเป็นหลักครึ่งล้าน หรือ หลักล้าน และ มักถือหุ้นกันไว้ระยะเวลาพอสมควรถึงจะขาย ส่วนใหญ่จะเก็บไว้กินเงินปันผล ไม่ค่อยซื้อมาขายไปกันมากนัก นอกจากได้กำไรถึงจุดคุ้มทุนจึงเทขาย หรือ ทยอยขาย และ หันไปซื้อหุ้นตัวอื่นๆ ที่ราคายังต่ำและมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต ต่างจากปัจจุบัน
ที่การเล่นหุ้นดูเหมือนการเล่นพนัน มีเก็งราคาหุ้นขึ้น หุ้นลง กันในแต่ละวัน ซื้อขายรวดเร็ว บางคนซื้อหุ้นมาไม่ถึงสองวันก็เทขายกันแล้ว เอากำไรนิดๆหน่อยๆ และ บางคนเน้นตัวท๊อปๆ เทรดหุ้นกันผ่านระบบออนไลน์ บางคนลงทุนหลักหมื่นด้วยซ้ำ และ นักเล่นหุ้นหน้าใหม่ส่วนใหญ่เป็น มนุษย์เงินเดือน คนวัยทำงานที่พอมีรายได้ มีเงินเก็บ หวังหากำไรต่อเงินจากการเล่นหุ้น บางคนได้คำแนะนำดีๆ ก็ทำกำไรได้มาก บางคนไม่รู้อะไรเลยเห็นเขาเล่นก็เล่นตามเขาเจ๊งไปเยอะก็หลายราย เพราะอย่างที่บอกหุ้นมันเหมือนการพนัน ที่ต้องเสี่ยง แต่เป็นการพนันที่เจ๊งแล้วไม่หมดตัวยังเหลือเงินให้เรา ดังนั้นความเสี่ยงมันเยอะ และ หากไม่มีความรู้แน่นอนว่าการจะได้กำไรนั้นยากสุดๆ
หลักการเล่นหุ้นแบบง่ายๆ ที่มือใหม่หลายคนเข้าใจคือ ซื้อหุ้นที่มีอนาคต ราคาไม่แพง ขายเมื่อราคาขึ้น หรือ มีแนวโน้มว่าราคาจะลง นี่คือหลักการที่มือใหม่หลายคนเข้าใจ แต่ขอบอกเลยว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คิด เพราะหุ้นมันอ่อนไหว เป็นอะไรที่บอบบางยิ่งกว่าทารกในครรภ์ กระทบนิดกระทบหน่อยก็พร้อมจะร่วงกันเป็นแถวๆ หากใครติดตามเรื่องหุ้น หรือ เล่นหุ้นจะรู้กันดี และ ยังมีการปั่นหุ้น การปล่อยกระแส ข่าวลือต่างๆ และอีกมากมาย บอกเลยว่าหากไม่ศึกษาให้ดีๆ จะกลายเป็นแมงเม่าเพราะคำว่าอยากรวยจากหุ้น แต่ในทางกลับกัน หากมีความรู้ มีข้อมูล ศึกษาอย่างละเอียด อดทนและใจเย็น การซื้อหุ้นเก็บไว้ ก็สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว บางคนเลือกหุ้นกลุ่มหลักๆ เช่น พลังงาน อสัหาฯ สื่อสาร หรืออื่นๆ เลือกบริษัทที่มีฐานมั่นคง มีแนวโน้มที่ดี หุ้นพวกนี้เก็บระยะยาวได้กำไร บางคนทยอยซื้อไปเรื่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยก็สามารถรวยเมื่อนำมาเปลี่ยนเป็นเงินได้เช่นกัน
การเล่นหุ้นนั้นมันไม่มีอะไรที่ตายตัว ทุกอย่าง ทุกสถานการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนเพราะอย่างที่บอกว่ามันมีหลายปัจจัยแต่ที่แน่นอนคือ ต้องศึกษาข้อมูล ต้องมีการวางแผน ต้องมีความรู้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่ปัจจุบันจะเห็นคนที่มีเงินเดือนประจำ หันมาเล่นหุ้น เพราะหวังผลกำไรตอบแทนที่สูงจากการซื้อขายหุ้น
แต่ มีการลงทุนอีกรูปแบบที่ มนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่สนใจและนิยมคือ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทน 2%-5% ต่อปี ซึ่งนิยมกันมากในช่วงปลายปีบางคนซื้อไว้หักภาษี หรือบางคนลงทุนในกองทุนรวมระยะยาว ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% ต่อปี ซึ่งการลงทุนในกองทุนนั้นจะมีระยะเวลาตามแต่ละกองทุนที่กำหนดบางกองทุนไม่กี่เดือนก็ขายได้และกำไร อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความสามารถว่ามีเงินลงทุนได้ในระดับไหน นอกจากนี้พวกพันธบัตรต่างๆ เช่น สลากออมสิน หรือ สลาก ธกส. ก็เป็นที่นิยมเพราะไม่จำเป็นต้องซื้อครั้งละมากๆ เรียกว่าลงทุนได้เรื่อยๆได้ทั้งดอกเบี้ยและลุ้นเงินรางวัลในแต่ละเดือนเพราะจะมีการออกสลากทุกเดือน หากเลขสลากออกตรงกับที่เราซื้อเราก็ได้รางวัล ก็ถือเป็นการลงทุนและออมเงิน ไปในตัว ซึ่งการลงทุนในสลากของทั้งสองธนาคารนั้นเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ หลักพันก็ลงทุนได้ มีตอนไหนก็ไปซื้อได้ จะซื้อทุกเดือน หรือ ทุกปีก็ได้
อยากลงทุนก็ต้องลองศึกษาหาข้อมูลกันดูเลือกให้เหมาะกับความสามารถของตัวเองและความต้องการในการใช้เงินรับรองว่าเงินต่อเงินได้แน่นอน