เรื่องของการเงินส่วนบุคคลนั้น นอกจากนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งมาเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว ก็สุดแท้แต่ใครจะมีความคิดสร้างสรรค์ว่าจะนำเงินไปใช้จ่ายอย่างไรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หลากหลายผลิตภัณฑ์ทางการเงินจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของคนเรา แม้แต่สลากกินแบ่งรัฐบาลก็เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่งเหมือนกัน ไม่นับการเล่นหวยที่เหมือนเป็นเงาตามตัว ทั้งหวยสลาก หวยหุ้น และอื่น ๆ ที่คนเราจะคิดขึ้นมาได้ กับคำกล่าวที่ว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นั้นมีความเป็นจริงอย่างไร เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องหรือไม่ ในบทความนี้มีแนวคิดที่มานำเสนอให้อ่านกัน
คนจนเล่นหวย…
ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยที่อ้างอิงเลขจากสลากกินแบ่งฯ นั้น ทำให้สังคมไทยมีความสนุกครึกครื้นกันมาก ทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน แม้จะรู้ว่าโอกาสถูกยาก แต่ก็ยังซื้อกัน บ้างก็ว่าทำให้จิตใจมีความหวังที่จะได้เป็นเศรษฐีชั่วข้ามวัน ไม่ผิดหรอกเพราะว่ารัฐบาลได้ให้การรับรอง แต่ก็ควรซื้อแต่พอดีที่ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน หากไม่ใช่เป็นการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยตรงอย่างหวยใต้ดินก็ต้องระมัดระวังการซื้อมากเกินไป เพราะแต่ละงวดมีเลขมาให้เก็งมากมายเหลือเกิน พูดตามหลักทฤษฎีแล้วหวยเป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เพราะว่ามีโอกาสถูกน้อยมาก สมมติว่าซื้อสลาก 1 ฉบับ 80-120 บาท หากไม่ถูกแล้วก็จะกลายเป็นกระดาษที่มีราคาแพงที่สุดแต่ไม่มีใครรับซื้อคืน เงินทุนกลายเป็นศูนย์ในพริบตา ถ้าใครซื้อไว้หลายใบหรือชุดใหญ่ ก็คงจะเครียดอยู่ไม่น้อย แต่หวยรัฐบาลเป็นสิ่งที่คนเข้าถึงง่ายที่สุด ไม่ต้องมีหลักฐานการเดินบัญชีผ่านธนาคารใดใดก็สามารถซื้อได้ทันที
คำกล่าวนี้จึงน่าจะเป็นจริงที่คนจน(สามารถและนิยม)เล่นหวย หรือจะบอกว่าคนจน(เพราะ)เล่นหวย ก็ไม่ผิดนัก อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นการระดมทุนเข้ารัฐบาลและเป็นการร่วมสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ หากมีใจชอบเสี่ยงเดิมพันก็สามารถซื้อได้ ไม่ได้ทำให้จนแบบไม่มีจะกิน หากซื้อแต่พอดีเอาแค่พอสนุก เพราะการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็เป็นช่องทางอาชีพของผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคม จึงเห็นควรสนับสนุนต่อไป แต่ไม่สนับสนุนการเล่นหวยใต้ดิน หวยหุ้นหรืออะไรที่เป็นสิ่งนอกระบบ เพราะว่าเงินทองไม่ได้กลับคืนสู่สังคมสักเท่าไหร่
คนรวยเล่นหุ้น…
หุ้นทุน มีการซื้อขายกันได้อย่างสะดวกผ่านระบบของโบรกเกอร์และตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าผู้ที่จะเล่นหุ้น หรือลงทุนในหุ้นต้องมีเงินเหลือพอประมาณส่วนหนึ่งที่จะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนได้ กลุ่มคนที่ลงทุนในหุ้นหรือนักเล่นหุ้นก็มักจะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นคนรวย เพราะการจะเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ได้ก็ต้องมีรายการเดินบัญชีแสดงให้พิจารณาก่อนว่ามีเงินหมุนเวียนอย่างไร แต่เล่นหุ้นนั้นต้องใช้ความรู้มากกว่าการเล่นหวยหลายร้อยเท่าตัวนัก เพราะถ้าขาดความรู้และมีแต่ความโลภ คุณจะเป็นคนรวยแค่ก่อนการเคาะซื้อเท่านั้น หลังจากนั้นแล้วไม่มีใครทราบ หลายคนอาจจะจนลงทันทีที่หุ้นติดดอย หรือมูลค่าตกเพราะหมดรอบการปั่นหุ้น
การซื้อขายในกระดานหุ้นนั้นไม่ทำให้เกิดความรู้สึกหวงเงิน เพราะไม่ได้มองเห็นธนบัตร เห็นแต่เพียงตัวเลข หลาย ๆ คนจึงเคาะซื้อกันไปราคาหลักแสนหลักล้านโดยไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร ลองมานึกดูถ้าเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าจะซื้อสินค้าราคาแค่หลักหมื่นยังคิดแล้วคิดอีก แต่ในกระดานขายหุ้น หลักหมื่นนี่จิ๊บ ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากซื้อกันไปก่อน ติดดอยว่ากันทีหลัง จึงปรากฎว่ามีคนที่หลงติดดอยกันเป็นจำนวนมาก พบเห็นได้ตามกระดานข่าวเว็บบอร์ดชื่อดังของเมืองไทยที่เข้ามาปรับทุกข์กัน ที่เป็นอย่างนี้เพราะคนเราขาดความรู้ด้านการลงทุนในตลาดทุนส่วนหนึ่ง ไม่เคยได้รับการเรียนการสอนในหน่วยกิตใดใด พอทำงานมีเงินหน่อยก็กระโดดเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ทันที เปรียบเหมือนแมงเม่าที่เขาเปรียบเทียบผู้ซื้อรายย่อยนั่นเอง นอกจากขาดความรู้แล้วยังไม่พยายามศึกษารายละเอียดของกิจการที่เข้าซื้อหุ้นก็มี หรือซื้อหุ้นหลาย ๆ ตัวเข้ามาเก็บในพอร์ตก็มี ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง บางครั้งไปทานข้าว ดูหนัง แล้วกลับมาดูพอร์ตถึงกับทรุด เพราะตัวแดงเถือก คัทลอสไม่ทัน ทุนจมและอาจจะจมไปตลอดการถ้าบังเอิญหลงไปซื้อหุ้นปั่นที่มีมูลค่าสูงเกินค่าตัวจริง ๆ ในตลาดเรียกว่าซึมยาวทั้งหุ้นและผู้ถือหุ้น
ดังนั้น คำที่บอกว่าคนรวยเล่นหุ้นนั้นก็มีส่วนเป็นความจริง แต่มีความจริงอีกส่วนที่ต้องเฉลียวใจสักนิดว่า การเล่นหุ้นไม่ได้ทำให้รวยได้ทุกคน ถ้าขาดความรู้และการศึกษาที่รอบคอบก็จะกลายเป็นความเสี่ยงสูงทีเดียว ดังที่เขามีการเตือนนักลงทุนไว้ทุกครั้งด้วยอักษรตัวเล็กมากถึงมากที่สุดว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหวยก็ดี เล่นหุ้นก็ดี ควรจะวางกรอบจำกัดไว้เสมอ ว่าเป็นจำนวนเงินที่เสี่ยงได้และเตรียมแผนสำรองรับมือหากอะไรไม่เป็นไปตามที่หวัง เช่น จุดคัทลอส หุ้นก็ยังดีกว่าหวยเพราะไม่ได้ลดมูลค่าจนเหลือศูนย์ แต่ยังมีโอกาสฟื้นกลับมากำไรได้หากเป็นหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดีและเติบโต ซึ่งตลาดหลักทรัพย์มีข้อมูลเหล่านี้เตรียมไว้พร้อมทุกด้าน
ทั้งรายละเอียดของแต่ละบริษัทและผลประกอบการรายปีที่สามารถดูย้อนหลังได้ รวมถึงกราฟที่บริษัทที่เป็นโบรกเกอร์จัดแสดงให้ก็เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะเข้าซื้ออย่างไร ก่อนการเล่นหุ้นควรแบ่งสรรจัดพอร์ตการเงินให้ดี ไม่ควรนำเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุนในหุ้น ถ้ามีอายุน้อยอยู่ก็สามารถเสี่ยงได้มากกว่า เช่น นำเงินเก็บ 60% ไปลงทุนในหุ้น แต่ถ้าอายุ 40-50 แล้ว เหลือเวลาทำงานอีกไม่เกินสิบยี่สิบปีก็ควรลงทุนในสัดส่วนน้อยลงมาสักหน่อย เช่น 20-30% ของเงินเก็บ ควรพิจารณาหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและเติบโตทุกปี และไม่ควรเลือกซื้อหุ้นมากมายหลายตัวเพราะคุณจะไม่สามารถดูแลทั่วถึงได้ เพราะว่าคุณต้องเป็นนักลงทุนตัวจริง ไม่ใช่นักเล่นหุ้น ถ้ามีคนมาขอยืมเงินคุณไปลงทุนแล้วคุณจะต้องตรวจสอบรอบคอบอย่างไรก็จงทำเช่นนั้นกับหุ้นของบริษัทที่คุณจะซื้อ แล้วคุณจะกลายเป็นคนรวยเล่นหุ้นตัวจริงในท้ายที่สุด