ในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเงินสำรอง ทั้งนี้ก็เพราะว่า เราต้องเตรียมเงินไว้ให้พร้อมกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด การเก็บเงินจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ ครั้นที่จะเก็บเงินแล้วนำเงินไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ ก็ดูจะเป็นการฝากเงินที่แทบจะไม่ได้อะไรงอกเงยมาเลย แต่จะไปลงทุนทางด้านอื่นก็ไม่มีความรู้ กลัวว่าเงินที่จะนำไปลงทุนจะสูญสลายไปต่อหน้าต่อตาเรา
ดังนั้นแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่มีความคิดในเรื่องของการลงทุนแบบใดเป็นพิเศษ วันนี้เรามีเคล็ดลับการ ลงทุนการเงิน ที่เรียกได้ว่าปลอดภัยแบบสุดๆแถมยังได้ผลตอบแทนในระดับหนึ่งด้วย มาฝากกัน ลองติดตามดูกันได้เลยครับ
1. ซื้อสลากออมสิน, สลากธกส.
การซื้อสลากออมสินหรือ สลากธกส. เป็นอีกหนึ่งการลงทุนด้านการเงิน ที่น่าสนใจมาก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะไม่ได้มากมายอะไร แต่เรื่องของความปลอดภัย ต้องบอกว่าปลอดภัยแบบสุดๆ และข้อดีอีกประการหนึ่งของสลากออมสินหรือสลากธกส. ก็คือ มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอีกต่างหาก ซึ่งการซื้อสลาก ยิ่งซื้อมากยิ่งมีโอกาสถูกมาก แม้ว่ารางวัลใหญ่ๆจะมีโอกาสถูกน้อย แต่เราก็อย่าลืมว่า รางวัลเลขท้ายก็มีเช่นเดียวกัน ถูกรางวัลเลขท้ายบ่อยๆรวมกันแล้วก็เป็นเงินจำนวนพอสมควรเช่นกัน เมื่อรวมกับเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้แล้ว ก็ดูคุ้มค่านะครับ หรือ ดีไม่ดีเราอาจจะถูกรางวัลใหญ่ รวยไม่รู้ตัวอีกครับ
2. ซื้อประกันชีวิต
ประกันชีวิตมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหากเราต้องการออมเงิน เราควรเลือกซื้อประกันชีวิตให้ถูกแบบ โดยเลือกประกันชีวิตที่ได้รับผลตอบแทนคืน เมื่อครบสัญญา ซึ่งส่วนมากแล้วประกันเหล่านี้มาพร้อมกับความคุ้มครองส่วนบุคคล หากว่าเราเกิดประสบอุบัติเหตุ ก็จะได้รับการคุ้มครองตามวงเงินประกัน และเมื่อครบสัญญาแล้ว ก็จะได้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในสัญญา แต่การซื้อประกันชีวิตนั้น หากว่าเราเลิกส่งเบี้ยก่อนครบสัญญา จะได้เงินต้นคืนกลับมาไม่ครบจำนวน ดังนั้นแล้วการซื้อประกันชีวิตจึงเป็นการออมระยะยาว ที่ได้มากกว่าผลประโยชน์ด้านตัวเงิน แต่ได้รับการคุ้มครองจากอุบัติเหตุอีกด้วย
3. การซื้อพันธบัตรรัฐบาล
พันธบัตรรัฐบาล ก็จะคล้ายๆกับการซื้อสลาก มีระยะเวลากำหนดไว้อย่างชัดเจนอาจจะเป็น 3 ปี 5 ปี แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ไม่มีลุ้นรางวัลทุกเดือนเหมือนสลาก และได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าสลากนั่นเอง โดยปกติแล้ว การซื้อพันธบัตรรัฐบาล จะค่อนข้างได้รับความนิยมมาก ดังนั้นแล้ว เมื่อมีการเปิดซื้อ จะหมดอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนเองก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย และได้รับผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินนั่นเอง การลงทุนประเภทนี้เป็นการลงทุนที่ผมแนะนำมากครับ แต่ส่วนมากแล้ว ก็อย่างที่กล่าวมา คือ หาซื้อได้ยาก ไม่ทันคนอื่นครับ หากใครสนใจการซื้อพันธบัตรรัฐบาลจริงๆก็คงต้องลองไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมดูนะครับ
4. การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
สำหรับใครที่เป็นพนักงานบริษัทนั้น หลายๆบริษัทจะมีสวัสดิการตัวหนึ่งเรียกกว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นตัวกฎหมายกำหนดขึ้นมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะมี เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น เมื่อเราถูกหักเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นจำนวนเท่าใด ฝ่ายนายจ้างก็จะสมทบเพิ่มให้เท่านั้น เปรียบเสมือนกับเราได้เก็บเงินคูณสองนั่นเอง นอกจากนี้ในแต่ละปี ยังได้รับผลตอบแทนจากผลประกอบการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่นำเงินของเราไปลงทุนอีกด้วย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และไม่ส่งผลเสียใดๆกับการเงินของเราเลย เพียงแต่เราจะถูกหักเงินจำนวนหนึ่งออกไปจากเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือนเท่านั้น โดยเราจะถอนเงินจากกองทุนเมื่อใดก็ได้ แต่สำหรับเงินสะสมจากนายจ้างนั้น ต้องสะสมจนครบ 5 ปี ก่อนจึงจะสามารถถอนออกมาได้ ถ้ามีเหตุจำเป็นให้ถอนออกก่อน ก็จะได้เพียงบางส่วน อย่างไรก็ตามจะถอนออกก่อน 2 ปี ไม่ได้
5. ฝากธนาคาร
การฝากเงินในธนาคาร ถือว่าเป็นวิธีสุดคลาสสิคที่คนส่วนใหญ่นิยมกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยแบบสุดๆนั่นเอง แต่การฝากธนาคารที่เราจะแนะนำนั้น ไม่ใช่การฝากออมทรัพย์มีดอกเบี้ยต่ำมาก แต่เป็นการฝากประจำ ซึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆในประเภทนี้ ก็คือการฝากประจำพิเศษ นั่นเอง การฝากประจำพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเก็บใกล้เคียงกันทุกเดือน เพราะส่วนมากแล้ว เงื่อนไขคือ จะต้องฝากเท่าๆกันทุกเดือน หรือบางเงื่อนไขอาจจะให้คงเงินฝากไว้ไม่น้อยกว่าเงินฝากของเดือนก่อน ซึ่งการฝากในลักษณะนี้ มีบางธนาคารที่ไม่เสียภาษีดอกเบี้ย ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่ามีคุ้มค่าอย่างแน่นอน
การ ลงทุนการเงิน ทั้ง 5 ตัวที่เราแนะนำมา กล่าวได้ว่ามีความเสี่ยงน้อยมากหรือไม่มีเลย ดังนั้นแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าอยากจะลงทุนทำอะไรกับเงินของเราดี แม้ว่าการ ลงทุนการเงิน ทั้ง 5 ตัวข้างต้น จะไม่ได้ผลตอบแทนที่มากมายอะไรนัก แต่เมื่อเทียบกับการที่เราต้องปล่อยเงินทิ้งไว้เฉยๆ หรือทิ้งไว้ในบัญชีออมทรัพย์ การ ลงทุนการเงิน ทั้ง 5 ตัวข้างต้น ย่อมมีความคุ้มค่ากว่าแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนการลงทุนก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะการลงทุนบางประเภทต้องทิ้งเงินไว้หลายปี หากว่าเรามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ต้องใช้เงินจะมีทางออกอย่างไร ฉะนั้นจึงไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในแบบใดแบบหนึ่งเพียงอย่างเดียว กระจายความเสี่ยงในการลงทุนหลายๆแบบจะดีกว่า