http://pantip.com/topic/34492474 ตัวอย่างของปัญหาที่เกิดขึ้นจากการ ซื้อคอนโด สิ่งที่ควรระวังเพราะคำว่าให้รีบโอนก่อนจะหมดโปรโมชั่นส่วนลดค่าโอน และ ไม่มีปัญหาซ่อมให้ภายหลังได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับเจ้าของกระทู้คือ ซ่อมให้แต่ก็ซ่อมแล้วซ่อมอีกจนสุดท้ายคงหมดระยะเวลาประกันก็คงต้องจ่ายเงินซ่อมแล้วซ่อมอีกกันต่อไป
เรื่องจริงของการซื้อที่อยู่อาศัยที่ต้องให้ความสำคัญเพราะมันเป็นเรื่องใหญ่เราใช้เงินเป็นล้านกับคำว่าบ้านหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องให้ความสำคัญประหนึ่งชีวิตเราเอง แต่กลลวงของการซื้อขายมันมีช่องโหว่ต่างๆที่สามารถทำให้เราโดนเอาเปรียบ เช่น โปรโมชั่นและกำหนดระยะเวลาในสัญญาซึ่งมีคนเคยเสียหายจากสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเจ้าของกระทู้เองก็หลงกลนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อตรวจสอบสภาพห้องมีจุดชำรุดซึ่งต้องแก้ไข ในครั้งแรกเจ้าของกระทู้จะไม่โอน แต่ก็โดนไซโคจากหน่วยงานของคอนโดที่บอกว่า แก้ไขให้ภายหลัง และ จะหมดเวลาโปรโมชั่นลดราคาแล้วนะ ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่าส่วนลดของคอนโดเหล่านี้จะลดทั้งราคาห้อง หรือ ราคาค่าโอน แน่นอนว่าใครๆก็อยากได้ส่วนลดจึงทำให้ตกหลุมพรางและที่สำคัญมันบานปลายจนเกือบหมดระยะเวลาการประกันของโครงการ
กระทู้นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างดีว่า อย่าไว้ใจโครงการโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีไหนๆ และโครงการไหนๆก็ตาม พนักงานขายเขามีแค่หน้าที่ขายเรื่องอื่นเขาจะไม่รับรู้และไม่ทำแม้แต่จะประสานงานให้ วิศวกรโครงการก็แต่ตรวจสอบและส่งให้ช่างมาซ่อมแล้วก็จะจบที่ตรงนั้นไม่ใช่หน้าที่เขาอีกต่อไป ช่างก็มาซ่อมตามคำสั่งจะกี่ครั้งก็ตามคำสั่งของโครงการหากอยู่ในประกันซ่อมแล้วก็แล้วกัน ช่างดีก็ซ่อมดีช่างขอไปทีก็ขอให้มากันใหม่
นี่คือเรื่องจริงที่เจ้าของกระทู้เจอ และทางโครงการไม่รับผิดชอบเพราะมันจะหมดประกันแล้วยื้อให้แค่หมดซ่อมเกินกว่า 20 ครั้งเขาก็ไม่อยากรับผิดชอบแล้ว ซึ่งหากฟ้องร้องกันเจ้าของกระทู้เองก็มีส่วนที่พลาดคือเซ็นรับโอนทั้งๆที่รู้ว่ามันมีปัญหา และอาจไม่มีการเซ็นสัญญาในเรื่องนี้ไว้ อาจเป็นการพูดกันแค่ปากเปล่า มีแต่รูปถ่ายตามช่วงเวลาต่างๆเท่านั้น แม้ว่าจะมีหน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียนที่ผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องได้แต่มันก็ใช้ระยะเวลาพอสมควร เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา
ทางออกและการป้องกันปัญหาเหล่านี้สำหรับคนที่กำลังจะ ซื้อคอนโด และบ้าน
คือ การตรวจสภาพควรมีคนที่มีความรู้ทางด้านก่อสร้างหรือเป็นช่างที่ไว้ใจได้ไปด้วย หากไม่มีแนะนำให้ค้นหาบริการรับตรวจสภาพบ้านยอมเสียเงินกันไปเลยเพราะผู้ให้บริการเหล่านี้จะมีความรู้และตรวจสภาพบ้านหรือคอนโดได้ละเอียดทุกจุดกว่าการที่เราแค่ไปยืนมองๆแล้วเซ็นรับ เพราะโดนพนักงานบิ้วท์ให้รับ อย่าเข้าตำราเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย และบางโครงการมีเล่ห์กลมีสัญญาระบุให้รับโอนก่อนและซ่อมภายหลัง แยกเป็นสัญญาต่างหากจากการซื้อขายนอกจากนี้มีกลวิธีอีกหลายอย่างที่จะให้คนซื้อเซ็นรับแม้ห้องหรือบ้านยังไม่สมบูรณ์ 100% แม้ว่าจะมีการประกันที่ซ่อมให้ได้ภายหลังก็ตาม และที่เด็ดสุดที่มักเจอกันคือ กำหนดวันโอนห้องหรือบ้านพร้อมเวลาให้ลูกค้า คือบังคับกันเลยหากไม่โอนก็เท่ากับทำผิดสัญญาลูกค้าคือคนที่เสียหาย
การถ่ายรูปหรือการบันทึกคลิปวีดิโอและการจดรายการปัญหาที่ต้องแก้ไขก่อนการรับโอนจะช่วยลดความเสี่ยงในกรณีนี้ได้เพราะลูกค้ามีหลักฐานที่ชัดเจนว่าห้องหรือบ้านไม่เรียบร้อย ต้องบันทึกให้ละเอียดด้วย เช่น หากถ่ายรูปควรให้มีบันทึกวันที่และเวลาในรูปเลย ว่าง่ายๆตั้งค่ากล้องหรือสมาร์ทโฟนไว้เลยให้มีเวลาวันที่โชว์กันเห็นๆโครงการจะบิดพลิ้วไม่ได้ แบบฟอร์มของโครงการในการตรวจบ้านต้องมี หากพบข้อผิดพลาดลูกค้าต้องบันทึกทุกอย่างและถ่ายสำเนาเก็บไว้ด้วยหรือเอาตัวจริงกลับมาหากมีคนละชุดกับโครงการ สัญญาแนบท้ายต่างๆต้องดูให้ละเอียด และอย่าฟังคำพูดของพนักงานโครงการที่บอกว่า ไม่เป็นไรโอนก่อนซ่อมที่หลัง หากมีการบังคับโอนทั้งๆที่ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ปรึกษากับสคบ.หรือหน่วยงานที่ดูแลทันทีเพราะหากมีปัญหาภายหลังจากการรับโอนคุณทำใจได้เลยว่าพลาดแล้วจริงๆ เหมือนอย่างที่เจ้าของกระทู้ตัวอย่างเจอมา
การซื้อบ้านหรือ ซื้อคอนโด มันเป็นเรื่องใหญ่เงินนับล้านที่ต้องเป็นหนี้หากได้บ้านหรือคอนโดที่อยู่แล้วต้องซ่อมบ่อยๆแบบนี้มันทำให้เราดูเหมือนโง่และเสียรู้โครงการความรู้สึกที่อยากจะอยู่มันคงหมดไปและเป็นบทเรียนแต่ในเมื่อเสียเงินไปแล้ว เป็นหนี้ไปแล้วก็ต้องก้มหน้าทนกันไปจนกว่าจะแก้ปัญหาได้จริงไหมล่ะ