ยุคสมัยนี้เป็นยุคสมัยแห่งความรีบเร่งกันจริง ๆ ลำพังแค่ตื่นเช้ามาอาบน้ำ แต่งตัว เดินทางฝ่ารถติดมาถึงที่ทำงานได้ทันนี่ก็เรียกว่าต้องฝ่าฟันกันแบบสุด ๆ ไม่ต้องนึกถึงเรื่องว่าจะเตรียมอาหารเช้าทานเองที่บ้าน เพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก หากใครตื่นเช้ามาทำได้ก็ถือว่าเก่งจริง ๆ
นี่จึงเป็นช่องทางและโอกาสในการสร้างรายได้ ทำอาชีพเสริมเพื่อหารายได้จากความรีบเร่งของพนักงานออฟฟิศที่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าเพื่อเติมใส่ท้องก่อนที่จะเข้าทำงาน ทำให้ต้องหาซื้ออะไรทานไม่ว่าจะเป็นแบบง่าย ๆ หรือเป็นเรื่องเป็นราวเอาตามทางสถานีรถไฟฟ้าหรือหน้าตึกที่ทำงานของออฟฟิศ
มีหลายคนเลือกทำอะไรแบบง่าย ๆ ไปขายตามหน้าตึกออฟฟิศที่ทำงานหรือถามหน้าถนนที่เป็นจุดคนรอรถเมล์หรือรถมอเตอร์ไซด์ ทำแซนด์วิชขาย, ทำข้าวกล่องแบบง่าย ๆ ทำสำเร็จไปวางขาย, ขายขนมปังไส้ต่าง ๆ, ขนมจีบ ซาลาเปา, ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, ข้าวเหนียวหมูทอด, ไก่ทอด, ข้าวไข่เจียว, สลัด, น้ำเต้าหู้, กาแฟ, ผลไม้ ฯลฯ เรียกว่าตอนเช้านี่หากไปลองเดินดูหน้าตึกออฟฟิศที่ทำงานนี่มีให้อาหารเช้าในเลือกแทบทุกประเภทเลย
บางคนบอกว่าไม่มีที่มีทาง คนเขาจับจองไปหมดแล้ว ก็เห็นมีอีกช่องทางที่เห็นคนอื่นเขาทำกัน ก็คือ หากแฟนเราทำงานอยู่ในออฟฟิศ เราสามารถบอกกล่าวเพื่อนที่ทำงานว่าที่บ้านเราทำอาหารเช้าขาย หากใครสนใจสามารถสั่งล่วงหน้าได้ 1 วัน อาจมีเมนูให้เลือกซัก 3-4 เมนู เพื่อความหลากหลายมีบางคนแรก ๆ ก็ทำใส่กล่องให้แฟนไปนั่งทานที่ทำงานก่อน พอมีเพื่อนร่วมงานหรือคนในออฟฟิศเห็น เขาก็มาถามเห็นว่าน่าทาน ทีนี้เราก็บอกได้เลยว่าทำเองที่บ้าน หากสนใจสามารถสั่งได้เพราะทำขายอยู่แล้ว แรก ๆ อาจมีออเดอร์ไม่เยอะ ก็ขอให้เริ่มทำไปก่อน สำคัญคือต้องควบคุมคุณภาพให้ดูน่าทาน สะอาดและรสชาติดี ให้แฟนเราเป็นคนถืออาหารไปส่งเพื่อนที่ทำงาน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มเติมด้วย หากอาหารคุณภาพดี ราคาไม่แพง อร่อย ไม่นานก็จะมีการบอกต่อกันไป ออเดอร์ก็จะมากขึ้นได้
อ่านเพิ่มเติม : ของกินเล่น ทําง่าย ขายดี เน้นต้นทุนต่ำแต่ให้กำไรงาม
การทำอาหารเช้าขายนี้เราต้องเตรียมซื้อของไว้ล่วงหน้า 1 วัน ก่อนนอนเราต้องล้างวัตถุดิบ หั่น เตรียมของไว้ให้พร้อม แช่ไว้ในตู้เย็นด้านล่าง อาชีพนี้ต้องตื่นเช้ากว่าคนอื่น ๆ เพราะเราต้องตื่นมาทำอาหาร คนที่เคยทำอยู่บอกไว้ว่าต้องตื่นมาตี 3 กว่า หรือตี 4 เพื่อเตรียมหุงข้าว ทำอาหารทีละอย่างจนเสร็จ พอใกล้หกโมงก็เตรียมตักใส่กล่อง แพ็คลงถุงเตรียมให้แฟนที่กำลังไปทำงานนำไปส่งเพื่อนที่ทำงานด้วย
คนที่มีประสบการณ์ในการทำอาชีพทำอาหารเช้าขายแบบให้แฟนไปส่งที่ทำงานนี้ บอกว่ากำไรประมาณ 40-50% มีแต่ต้นทุนที่เป็นวัตถุดิบกับภาชนะเท่านั้น ต้นทุนอย่างอื่นแทบไม่มีเลย ยิ่งหากมีลูกค้าเยอะขึ้นโอกาสในการได้กำไรเป็นตัวเงินก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย หากอยากให้อาหารเช้าของเราดูแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไป เราก็ต้องเลือกเมนูที่แตกต่าง เช่น เมนูเพื่อสุขภาพ มีฟักทองนึ่ง ผักต้ม ไข่ต้ม สลัด แบบนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย เพราะเทรนด์เรื่องอาหารสุขภาพนี้มาแรงอยู่ นอกจากนั้นการเลือกภาชนะที่สวยงาม มีหลุมแยกระหว่างข้าวและกับข้าว ก็จะทำให้อาหารนั้นดูน่าทานขึ้นมาก อย่าไปทำแบบใส่โฟมแล้วโปะกับข้าวบนข้าว เพราะกว่าอาหารจะเดินทางไปถึงก็ดูไม่น่าทานซะแล้ว
ธุรกิจขายอาหารเช้าแบบนี้เนื่องจากช่วงเริ่มต้นอาจมีออเดอร์ยังไม่มาก กำไรที่เป็นตัวเงินก็ถือว่าไม่ได้มากด้วย วิธีที่เราต้องทำความเข้าใจกับเพื่อนและลูกค้าก่อนเลย ก็คือ ต้องขอเก็บเป็นเงินสดเท่านั้น เป็นรายวันไปเลย ยื่นหมูยื่นแมว อย่าให้มีการให้เครดิตติดเงินอะไรกัน เพราะไม่อย่างนั้น กำไรก็ไม่ได้ แถมบางทีทุนยังหดหายไปอีก แล้วแฟนเรายังต้องมามีอาชีพเพิ่มคือทวงหนี้ด้วยนี่คงไม่ดีแน่ ๆ อธิบายให้เพื่อนเข้าใจไปตั้งแต่ต้น ว่าที่เราต้องเก็บเงินสดทันที เพราะเราต้องไปจ่ายตลาดทุกวัน เงินต้องหมุนเวียนเพื่อซื้อของทุกวัน คิดว่าอธิบายแบบนี้แล้ว ทุกคนต้องเข้าใจอย่างแน่นอน
เมื่อทำอาหารเช้าขายไปได้จนเริ่มอยู่ตัว เราอาจเลือกให้สั่งอาหารกลางวันเพิ่มขึ้นได้ เพราะมีพนักงานออฟฟิศเป็นจำนวนไม่น้อยที่ก็ไม่ได้อยากจะลงมาเดินหาอาหารกลางวันรับประทาน บางทีการเลือกทานบนออฟฟิศบ้างก็ทำให้ไม่เหนื่อย ไม่ต้องออกมาเจอกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว หรือในวันที่มีฝนตกก็ลำบากอยู่เหมือนกัน นี่ก็ถือเป็นช่องทางและโอกาสของเราอีกแล้ว แต่หากเป็นอาหารกลางวันเราอาจมีค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นบ้าง เมื่อรวมทำแล้วใส่ถุงใบใหญ่พร้อมเขียนออเดอร์และชื่อติดไว้ที่หน้ากล่อง จ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างแถวบ้านไปส่งที่หน้าตึกให้แฟนเราลงมารับก็ได้ หรือหากเราเป็นคนไปส่งเองก็ได้เช่นกัน ต้องลองบริหารเรื่องของเวลาดูให้ดี แต่คิดว่าไม่น่าจะยาก หากตั้งใจทำก็ต้องมีทางอย่างแน่นอน
พอไหวไหมคะกับอาชีพทำอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันขายพนักงานออฟฟิศแบบนี้ หากแฟนไม่ได้ทำงานออฟฟิศ ก็ลองทำใบปลิวพร้อมเบอร์ติดต่อไปยืนแจกหน้าตึก หรือจะลงโฆษณาในเฟซบุ้คหรืออินเทอร์เน็ตก็ได้ เป็นอีกช่องทางการโฆษณาที่ไม่เสียสตางค์ด้วย ของแบบนี้ต้องลอง ไม่แน่อาชีพนี้อาจกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเราจนกลายเป็นอาชีพหลักของเราไปเลยก็ได้
ขอบคุณตัวอย่างประสบการณ์จาก http://pantip.com/topic/33728606