ค่าอาหารมื้อเย็น 200 สำหรับครอบครัวที่มี 5 คนคุณคิดว่าพอไหม เชื่อว่าหลายๆคนได้ยินคำถามนี้คงจะบอกว่ามันจะพอได้อย่างไร 5 คนกับค่าอาหารมื้อเย็น 200 จะพอกินกันไหมเนี่ย หรือบางคนอาจจะบอกว่าที่บ้านฉันแค่ 3 คนค่าอาหารมื้อเย็น 200 ยังไม่พอเลย แต่เชื่อไหมว่ามีหลายครอบครัวที่ บริหารเงิน 200 ให้พอใช้กับเรื่องอาหารมื้อเย็น อยากรู้ไหมว่าเขาทำอย่างไรอยากรู้ก็ติดตามกันเลย
วันนี้จะเล่าให้ฟังว่าครอบครัวที่เขาจัดการ บริหารเงิน 200 บาทให้เพียงพอกับค่าอาหารสำหรับคน 5 คนเขาทำได้อย่างไร และเขาทานอิ่มกันหรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของครอบครัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านผู้เขียนเอง ซึ่งครอบครัวนี้อยู่กัน 5 คนเขาเล่าให้ฟังว่าค่าใช้จ่ายในบ้านแต่ละวันนั้นเยอะพอสมควรเพราะลูกๆไปเรียน 3 คนซึ่งค่าขนมสำหรับลูกๆไปเรียนั้นตกวันละ 400 บาทซึ่งจะรวมทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหารเช้า และ กลางวัน ส่วนมื้อเย็นนั้นสามีให้วันละ 200 บาทซึ่งบางวันก็กลับมาทานไม่พร้อมกันคือ ลูกๆจะกลับก่อนและคุณพ่อจะมาทีหลังซึ่งเท่ากับว่า วันนั้นจะต้องเตรียมอาหารไว้สองชุด พอได้ฟังเท่านี้ก็เริ่มสงสัยแล้วว่า 200 จะพอได้อย่างไร ซึ่งคำตอบคือ หลักๆแล้วที่บ้านเขาจะซื้อ ข้าวสารไว้เดือนละประมาณ 2 ถัง
( 30 กิโล ) ซึ่งเพียงพอต่อสมาชิกในบ้านบางเดือนก็ซื้อไม่ถึงเพราะข้าวสารเหลือเยอะ ซึ่งจะสลับกันไปมากบ้างน้อยบ้าง พวกเครื่องปรุงต่างๆและอาหารแห้งจะมีติดบ้านไว้ เช่นผักดองกระป๋อง , ปลากระป๋อง , หรือ บะหมี่สำเร็จรูป, กระเทียม , หอมหัวแดง , พริกไทย เก็บไว้ซึ่งในแต่ละเดือนจะจ่ายเงินซื้อของพวกนี้ไว้ตกเดือนละประมาณ 2,000 – 2,500 บาทส่วนใหญ่ก็จะซื้อของลดราคาบ้างตามแต่โปรโมชั่นของห้างที่ไปช่วงนั้น
อ่านเพิ่มเติม >> ใช้เงินวันละ 100 บาท ทำได้จริงเหรอ ?! <<
เขาบอกว่าเมื่อมีของพวกนี้ติดบ้านไว้แล้ว ค่าอาหารวันละ 200 ก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะจะซื้อแต่อาหารสดที่จะทำในแต่ละวัน และโชคดีที่ละแวกบ้านมีร้านขายอาหารสดเหมือนเป็นตลาดย่อมๆ ซึ่งขายตั้งเช้าถึงเย็น ทำให้ซื้อของได้สะดวกไม่จำเป็นต้องซื้อเยอะๆ แบบทีละครึ่งกิโล หรือ ต้องซื้อเป็นกิโล อย่างพวกหมู ไก่ และอาหารอื่นๆ และยิ่งหากออกมาซื้อตอนเช้าๆ อาหารสดจะเยอะมาก ทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปลา ผักต่างๆจะมีแบบรถเข็นมาขายด้วยทำให้สะดวกเพราะซื้อได้ในจำนวนที่ต้องการและราคาไม่แพง
ซึ่งในแต่ละวันเขาจะทำกับข้าวประมาณ 3 อย่าง ฟังดูแล้วไม่น่าจะพอใช่ไหมแต่มันทำได้จริงๆ เขายกตัวอย่างมาเช่น แกงจืดเต้าหู้หมูสับ , ผัดกระเพราไก่ , ไข่ยัดไส้ ซึ่งเขาจะซื้อหมูสับประมาณ 40 บาทสำหรับทำสองเมนู เต้าหู้หลอด 2 หลอดก็ราวๆ 25 กว่าบาท ต้นหอม,ผักชี,คืนไช่ รวมกัน 10 บาท สะโพกไก่สองชิ้นประมาณ 60 บาท หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ รวมกันก็ประมาณ 25 บาท ไข่ไก่ 5 ใบ 25 บาท ใบกระเพราอีก 5 บาท พริกสดอีก 10 บาท ก็ 200 พอดี ทำได้ 3 เมนูในปริมาณที่พอกินกันได้ 5 คน แต่บางวันอาจจะมีเกินบางนิดๆหน่อย หรือบางวันก็ไม่ถึงเพราะขึ้นอยู่กับเมนูที่ทำ และของแห้งบางอย่างที่ซื้อไว้นั้นบางวันก็นำมาทำเป็นมื้อเย็น เช่นต้มยำปลากกระป๋อง ซึ่งจะลดค่าอาหารลงไปได้อีก หรือบางวันก็นำบะหมี่สำเร็จรูปมาทำเป็นเมนูต่างๆบ้าง เช่น ราดหน้า หรือ ก๋วยเตี๋ยว ก็จะลดค่าอาหารวันนั้นไปทบกับวันอื่นที่อาจต้องจ่ายเกิน แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในงบประมาณนี้ แต่บางวันเบื่อๆไม่รู้จะทำอะไร ก็เปลี่ยนเป็นซื้ออาหารถุงบ้าง ซึ่งราคาก็ถุงละ 30 ซื้อประมาณ 4-5 ถุงเงินก็ยังเหลือ
เห็นไหมว่าหากรู้จัก บริหารเงิน อย่างครอบครัวนี้ เงินที่ดูเหมือนจะน้อยกลับมีประโยชน์อย่างคุ้มค่าโดยที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งเขาก็บอกว่าบางวันก็มีพิเศษบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก และที่ต้องมีงบประมาณสำหรับมื้อเย็นนั้นเพราะรายจ่ายต่อวันนั้นค่อนช้างเยอะแล้วหากรวมกับค่าขนมลูกๆ และเงินใช้จ่ายแต่ละวันอื่นๆ วันๆหนึ่งครอบครัวเขาก็ใช้เงินตกวันละ 1,000 บาทแล้ว หากไม่ประหยัดก็คงเป็นหนี้
แล้วคุณล่ะลองคำนวณกันบ้างไหมในแต่วันรวมๆแล้วใช้เงินกันไปเท่าไหร่ต่อวันลองคำนวนกันดูแล้วลองนำวิธีการของครอบครัวนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองรับรองว่าคุณจะมีเงินเหลืออย่างแน่นอน