ช่วงนี้ที่ไปไหนๆก็มีแต่คนพูดถึงการเล่นหุ้น อยากลาออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว หวังจะใช้ชิวิต สโลว์ไลฟ์ ชิลๆ จริงๆแล้วเรื่องคนเล่นหุ้นแล้วรวยนั้นไม่ค่อยมี ส่วนด้านที่ไม่ค่อยดีของการเล่นหุ้น ก็ไม่มีใครอยากออกมาพูดถึง ได้แต่เก็บงำความทุกข์ไว้กับตัวคนเดียว มีเรื่องเล่าขำๆเกี่ยวกับการเล่นหุ้นของยายซิ้มคนหนึ่งว่า
ยายซิ้มเป็นคนแก่ ขี้เหนียว คิดเยอะ เวลาจะทำอะไรหรือจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง ซิ้มแกจะคิดแล้วคิดอีก ทีนี้พอแกไปซื้อขายหุ้น นิสัยคิดแล้วคิดอีก ก็ติดไปใช้ในตลาดหุ้นด้วย เมื่อยายซิ้มเดินเข้าไปในตลาดหุ้น วันแรกหุ้นขึ้น ยายซิ้มแกไม่กล้าซื้อ เพราะคิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ลง จะซื้อได้ถูกกว่า
วันที่สอง แกก็ไปตลาดหุ้นอีก หวังว่าหุ้นจะลง แต่หุ้นดันขึ้นต่อ แกก็บอกว่า มันขึ้นมาสองวันแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ลง รอซื้อพรุ่งนี้ดีกว่า ว่าแล้วแกก็ยังไม่ได้ซื้อหุ้น วันที่สามแกก็มารอที่ตลาดหุ้นเหมือนเดิม กะว่าวันนี้หุ้นต้องลงแหงๆ เพราะขึ้นมาสองวันติดๆกันแล้ว แต่หุ้นก็ไม่ยอมลง กลับวิ่งขึ้นอย่างแรง ไล่ราคาไปไกล แกกลับไปบ้านมือเปล่า ไม่ได้หุ้นติดไม้ติดมืออีกเช่นเคย กลางคืนยายซิ้มนอนก่ายหน้าผาก คิดแล้วคิดอีก รอมาสามวันแล้ว หุ้นไม่ลงสักที หรือว่ามันจะวิ่งไปไกล ไม่ได้การละ พรุ่งนี้ต้องรีบไปตลาดแต่เช้า ต้องไปซื้อดักไว้ก่อนที่มันจะขึ้นแรง ว่าแล้วรุ่งเช้าของวันที่สี่ ยายซิ้มผู้คิดถี่ถ้วนดีแล้ว ก็ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตตัวเองแต่เช้า ไม่เพียงแต่ยายซิ้มเท่านั้น อาเจ๊ อาซ้อ รุ่นราวคราวเดียวกับแก และคิดมากคิดนานเหมือนกัน ต่างก็ตัดสินใจซื้อพร้อมๆกัน ในเช้าวันนี้ บางคนตัดสินใจช้า ไปซื้อเอาตอนสายๆ หุ้นก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก พอยายซิ้มและเพื่อนๆได้หุ้นมาครอบครองสมใจอยากแล้ว จู่ๆหุ้นตัวที่พวกแกซื้อก็หยุดขึ้น และก็ค่อยๆลง ลง ลง เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่ยายซิ่มผู้คิดมากคิดนาน คิดจนมั่นใจว่า หุ้นจะขึ้นแหงๆ เลยเข้าซื้อ เสร็จเรียบร้อย หุ้นกลับหยุดขึ้น และเปลี่ยนทิศทางทันที จนเกิดเป็นทฤษฎียายซิ้มเล่นหุ้นขึ้นมาว่า ถ้ายายซิ้มซื้อหุ้นเมื่อไหร่ นั่นเป็นสัญญาณขายแล้ว ใครถือหุ้นอยู่ให้ขายออกมาได้เลย
เป็นข้อเตือนใจสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ หรือใครก็ตามที่อยากจะออมเงินในหุ้น หรือซื้อหุ้นเก็บไว้ หวังให้เงินทำงาน จำไว้ว่าตลาดหุ้นไม่ใช่สถานที่ที่จะทำเงินให้เราง่ายๆ แม้ว่าเราจะคิดรอบคอบ คิดดีคิดนานขนาดไหน ราคาหุ้นก็อาจไม่เป็นไปดังที่ใจเราคิดวิเคราะห์ ในเบื้องต้นคนเรามักจะใช้เหตุและผลในการตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ มีระเบียบวิธีคิดขั้นสูง และคาดว่าจะสามารถนำความรู้นั้นมาใช้หากินในตลาดหุ้นได้ แต่ตามสถิติพบว่า คนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ขาดทุน ไม่เว้นแม้กระทั่ง หมอ วิศวกร ที่ถือว่ามีความฉลาดหลักแหลมมากกว่าคนทั่วๆไป ต่างก็ล้มเหลวในตลาดหุ้น ขาดทุนกันทั้งนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ใครที่หวังรวยหรือคิดว่า เล่นหุ้นแล้วจะสามารถใช้ชีวิตชิลๆ อาจต้องปรับทัศนคติเสียใหม่ ถ้าเล่นหุ้นแล้วรวยง่าย รวยเร็วจริงๆ ก็คงไม่มีคนมานั่งทำงานหนักตากแดดตากฝนให้เหนื่อยยากลำบากกัน
ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนและออมเงินกับหุ้นนั้นมีแน่นอน แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของความสำเร็จนั้นคืออะไร คงไม่ใช่ความรู้ง่ายๆ หรือเป็นอะไรที่ได้ง่ายรวยเร็วอย่างแน่นอน ก่อนจะตัดสินใจโยนเงินลงไปในตลาดหุ้น หรือลงทุนในหุ้น ต้องลงทุนในความรู้เกี่ยวกับการเล่นหุ้นให้ดี ให้พร้อมเสียก่อน ก็จะสามารถบรรลุผลทำเงินให้งอกเงยขึ้นมาได้