หนึ่งในความฝันของคนเราหลาย ๆ คนอาจมีความฝันที่ตรงกัน นั่นก็คือการได้มีบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นรังรัก รังแห่งความสุข เป็นที่หลบร้อนหนาว และให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยอยู่ในนั้น แต่สำหรับคนที่เกิดมาไม่ได้มีนามสกุลดัง ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด หรือไม่ได้ทำธุรกิจอะไรที่ร่ำรวยมาก เป็นเพียงแค่มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง หรือทำธุรกิจในครอบครัวเล็ก ๆ การปลูกบ้านบางทีมันก็เหมือนความฝันที่ เพ้อเจ้อหรือแค่เพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ก็ได้
บทความแนะนำ : เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ กันนะ ?
คำถามที่คนเราอยากรู้อันดับแรกเมื่อ อยากสร้างบ้านเอง ต้องการปลูกบ้าน คือ ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพราะเป็นอสังหาริมทรัพย์ราคาสูงและค่อนข้างถาวร หากไม่วางงบประมาณจะทำให้งบบานปลายได้
ขั้นตอนวางแผนงบประมาณนั้นสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าคนธรรมดาจะเก็บเงินปลูกบ้านสักหลังต้องเก็บเงินอีกสักกี่ปีถึงจะก่อสร้างได้ และในบางเดือนก็อาจมีธุระจำเป็น ทำให้ใช้เงินหมดอีกต่างหาก ถ้ารอก็คงต้องอยู่ห้องเช่า คอนโด หรืออาศัยบ้านคุณพ่อ คุณแม่อยู่ต่อไป ดังนั้น ถ้าฝันจะมีบ้านมันต้องสู้และลงมือสร้างให้ฝันเป็นจริงด้วยการศึกษารายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับงบการปลูกบ้านทั้งหมด แล้วไปปรึกษาธนาคาร สำคัญที่สุด คือ ณ ตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมดเท่าไรและตั้งงบการปลูกบ้านไว้ในใจเท่าไร ซึ่งย้ำว่าต้องรู้เพราะจะได้วางแผนเรื่องอื่นต่อไปได้ถูก เช่น ต้องการปลูกบ้านที่ราคา 1,500,000 บาท ตอนนี้มีเงินอยู่ในมือ 300,000 บาท ที่เหลือขอกู้หรือมีเงินทั้งหมดแล้วไม่ต้องกู้เป็นต้น จากนั้นดูรายละเอียดคร่าว ๆ ในการประเมินว่าการปลูกบ้านหนึ่งหลังจะต้องใช้เงินเท่าไรเป็นไกด์ ซึ่งอาจดูจากตารางการประเมินค่าก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2558 ของมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยตามตารางนี้
วิธีการคำนวณค่าก่อสร้างโดยประมาณ
ในวงการ จะมีวิธีเบื้องต้นในการประมาณราคาค่าก่อสร้าง ด้วยการใช้ราคาต่อตารางเมตรคูณกับพื้นที่ใช้สอย โดยดูจากตารางว่าเข้าลักษณะหรือใกล้เคียงกับประเภทใด โดยมากคนเราจะสนใจราคาบ้านเดี่ยวที่เป็นตึก เพราะสมัยนี้ไม่ได้ใช้ไม้เป็นวัสดุก่อสร้างหลักแล้วในเมืองใหญ่เพราะว่าหายากและมีราคาแพง คนทั่วไปจึงนิยมปลูกบ้านเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กกันหรือที่เรียกว่าบ้านตึกนั่นเอง จำนวนชั้นที่นิยมก็คือ 2-3 ชั้น ถ้าดูในตารางจะมีราคาสูงกลางต่ำ เป็นราคาต่อตารางเมตร ถ้าใช้วัสดุมาตรฐานธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไรมาก ก็ใช้ราคาต่ำ ถ้าดีขึ้นมาหน่อยก็ราคากลาง ถ้าวัสดุดี ๆ ก็ต้องเผื่อที่ราคาช่องสูงสุด เช่น กรณีบ้านตึก 2-3 ชั้น ราคาช่องต่ำ อยู่ที่ 10,100 บาทต่อตารางเมตร ส่วนช่องสูงจะอยู่ที่ 14,300 บาทต่อตารางเมตร เป็นต้น
หลังจากคิดคำนวณพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการแล้ว ก็นำจำนวนตารางเมตรไปคูณกับราคาต่อตารางเมตร ก็จะได้ราคาก่อสร้างโดยประมาณออกมา จะได้รู้ว่าอยู่ในงบประมาณหรือไม่ โดยสามารถปรับเพิ่มลดได้ เช่น ลดพื้นที่ใช้สอย หรือไม่ก็เป็นเกรดของวัสดุที่เลือกใช้ ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาประมาณแบบหยาบ ๆ เท่านั้น ยังมีส่วนแปรผันอีก เช่น ถ้าต้องเป็นเสาเข็มเจาะ ก็ต้องแพงขึ้นกว่าเสาเข็มตอก หรือถ้ามีความต้องการพิเศษมาก เช่น ห้องชั้นใต้ดิน หรือบริเวณสระว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นออพชั่นเสริมที่ต้องมีการประมาณราคาอย่างละเอียดจากผู้รับเหมาในขั้นตอนการเสนอราคา
เตรียมการก่อนขอกู้ธนาคาร
1.หาที่ดิน การจะปลูกบ้านได้ต้องมีที่ดินไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่พ่อแม่ให้เป็นมรดกหรือซื้อหามา ซึ่งที่ดินนี้จะต้องเป็นชื่อของเราเท่านั้นเพื่อขจัดปัญหาที่อาจตามมาในภายหลังได้ เมื่อได้ที่ดินแล้วให้ทำราคาประเมินที่ดินไว้ด้วย
2.หาแบบบ้านในฝัน ตั้งงบประมาณไว้ในครอบครัวว่าต้องการสร้างบ้าน เล็ก ใหญ่ แค่ไหน อาจไปมองหาแบบตามขายหนังสือขนาดใหญ่ ควรเลือกแบบที่มีรายละเอียดมากที่สุด อีกทั้งมีการวาดแบบบ้านไว้แล้ว เพื่อจะเป็นการง่ายต่อการแกะแบบในภายหลัง
3.ตัดสินใจว่าจะใช้ผู้รับเหมา บริษัทรับออกแบบสร้างบ้าน หรือจะจ้างช่างเป็นแผนกเอง เมื่อตัดสินใจได้ ให้เขียนแบบแปลนบ้านโดยต้องมีลายเซ็นวิศวกรก่อสร้างกำกับที่ด้านล่างด้วย
4. เตรียมเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน เกี่ยวกับผู้กู้ทั้งหมดหรือหากเป็นสามีภรรยาจะกู้ร่วมก็ต้องมีเอกสารทั้งสองฝ่าย ได้แก่ โฉนดที่ดินที่จะปลูกพร้อมใบประเมินราคาที่ดิน บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองเงินเดือน บัญชีธนาคารและรายได้ทั้งหมดในแต่ละเดือนทำเป็นบัญชีย้อนหลังประมาณ 6 เดือน เป็นอย่างน้อย
5. อยากจะบอกว่าการขอกู้ธนาคารจะให้เงินกู้ไม่เต็ม เช่น กู้ 2,000,000 บาท ก็จะได้ประมาณ 1,700,000 บาท และมีการหักค่าใช้จ่ายเช่นค่าประกันชีวิต ค่าประกันอัคคีภัย รวม ๆ แล้วประมาณ 20,000 บาท
เมื่อเงินกู้ผ่านแล้วหรือคนที่ปลูกเงินสดก็ลงมือปลูกบ้านได้เลย
ตัวอย่าง ตารางงบการเงินในการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ 1 หลัง (ราคาที่คาดการณ์ไว้ 1,500,000 บาท ที่ดิน 2 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร)
ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณของการจ้างช่างปลูกเอง แต่หากมีผู้รับเหมาอาจต้องเพิ่มไปอีกประมาณ 100,000-200,000 บาท เพราะมีค่าดำเนินการ ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกหลาย ๆ เจ้าให้มาเสนอราคา
อย่าปล่อยให้การปลูกบ้านเป็นแค่เพียงความฝัน เริ่มลงมือตั้งแต่ ยังเป็นวัยหนุ่มสาวอยู่ เมื่อถึงยามแก่เฒ่าจะได้ไม่ต้องลำบากเนื่องจากการไม่มีบ้านอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ กับความพอดีของกำลังเงินหรือกำลังแรงที่มีอยู่ อย่าสร้างแบบใหญ่โตแต่สุดท้ายไม่มีเงินผ่อนต่อธนาคาร มันก็อาจเป็นอากาศได้ สร้างแค่พออยู่อย่างสบายเหมาะสมกับขนาดของครอบครัวและสุดท้ายก็จะ มีความสุขกับบ้านหลังนี้แบบไม่มีปัญหาในอนาคต