โอกาสดีมาถึงผู้ประกอบการ SMEs แล้ว เมื่อธนาคารกรุงไทยใจดี เปิดให้บริการสินเชื่อตัวใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่าสินเชื่อ กรุงไทยใจดีช่วย SMEs แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าใครบ้างที่จะได้รับผลดี ซึ่งนั่นก็คือผู้ประกอบการ SMEs นั่นเอง วันนี้เราก็เลยจะมาพูดถึงสินเชื่อตัวนี้กันว่ามีความเป็นมาอย่างไรและคุณสมบัติของผู้กู้จะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
ย้อนดูสินเชื่อประเภทต่าง ๆ
ในช่วง 1 – 2 เดือนที่ผ่านมานับเป็นโอกาสทองในเรื่องของสินเชื่อที่ให้ประโยชน์แทบทุกกลุ่มบุคคล จากการที่ธนาคาร ต่าง ๆ พากันเปิดตัว สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกันอย่างถ้วนหน้า เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้ตัดสินใจกู้เงินเพื่อนำมาลงทุน อันเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มตั้งแต่สินเชื่อ Soft Loan ระยะที่ 3 สินเชื่อประชารัฐเพื่อ SMEs สินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชนของธนาคารออมสิน ล่าสุดเปิดตัวสินเชื่อ กรุงไทยใจดีช่วย SMEs ของธนาคารกรุงไทย ในวงเงินถึง 10,000 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเพียง 3.75% เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นสินเชื่ออีกตัวเลือกหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทุกรายในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเช่นนี้
บสย.ช่วยในการค้ำประกันสินเชื่อกรุงไทยใจดีช่วย SMEs
โดยสินเชื่อดังกล่าวนั้น ทาง บสย.ได้เข้าไปช่วยในการค้ำประกันสินเชื่อให้รับผู้ประกอบการในรายที่ปัญหาขาดหลักประกันหรือมีหลักประกันไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเงินกู้ในระบบได้ง่ายขึ้น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ออกมาหลายตัวนั้นส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องการกู้เงินเพื่อการลงทุนหรือเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการให้มีทางเลือกมากขึ้น และสามารถกู้เงินในจำนวนที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจของตน
สินเชื่อกรุงไทยใจดีช่วย SMEs ดีอย่างไร?
ต้องยอมรับว่าสินเชื่อ กรุงไทยใจดีช่วย SMEs นี้เป็นตัวเลือกล่าสุดที่ใจดีสมชื่อจริง ๆ เพราะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนทางธุรกิจไปได้มากเลยทีเดียวกับการใช้บริการของ บสย .ในปีแรกจะฟรีค่าธรรมเนียมไม่มีค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ ซึ่งมีให้เลือก 3 แพ็คเกจ โดยครอบคลุมผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลางและผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งในกลุ่มที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและกลุ่มที่มีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ โดยมีรายละเอียดคือ
- แพ็คเกจค้ำประกัน ที่ 1 สำหรับ SMEs ทั่วไป ที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท ต่อปี มีอายุของกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยผู้กู้ที่มีหลักทรัพย์เพียง 30 % ของวงเงินกู้ ทาง บสย. จะเข้าไปช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ในส่วนที่ยังขาดหลักประกันอยู่นั้น โดย ในวงเงินกู้สูงสุดรายละ 55 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในปีแรก 3.75 % เท่านั้น
- แพ็คเกจค้ำประกันที่ 2 มุ่งไปที่ SMEs ทั่วไป ที่มียอกขายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี มีอายุกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี และไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยทาง บสย.จะค้ำประกันสินเชื่อให้เต็มวงเงิน ผู้ประกอบการสามารถกู้เงินได้สูงสุดรายละ 40 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.9 % ในปีแรก
- แพ็คเกจค้ำประกันที่ 3 เหมาะสำหรับผู้ประการในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย ที่มียอดขายน้อยกว่า 100 ล้านบาท ต่อปี มีอายุกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี ผู้กู้มีหลักทรัพย์เพียง 30 % ของวงเงินกู้ ทาง บสย.จะเข้าไปช่วยค้ำประกันสินเชื่อในส่วนที่ขาดหลักประกัน ในวงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ต่อราย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.75% ในปีแรก
ธนาคารกรุงไทยนับว่าเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ การได้นำสินเชื่อ กรุงไทยใจดีช่วย SMEs ออกมาในช่วงนี้ ย่อมเกิดผลกระทบในแง่ดีที่จะทำให้ตลาดสินเชื่อเพื่อธุรกิจมีความตื่นตัวมากขึ้น ในส่วนของผู้กู้เองก็จะได้รับผลดีคือมีทางเลือกมากขึ้นและ ในส่วนของผู้ปล่อยกู้หรือธนาคารต่าง ๆ จะได้เข้ามามีส่วนด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการสินเชื่อที่เป็นนโยบายของภาครัฐหรือนโยบายของสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่จะออกมากระตุ้นตลาดเพื่อให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำนี้ทางธนาคารกรุงไทยก็คาดหวังว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นและเป็นการสร้างความเข็มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทย ช่วยให้เกิดการลงทุน และการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวขึ้น อันเป็นการนำเงินให้หมุนเวียนในระบบ ซึ่งจะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ผู้ประกอบ SMEs ที่เข้าหลักเกณฑ์มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน
ทางด้านนายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย ท่านเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ของธนาคารกรุงไทย ได้เผยว่า การที่ธนาคารได้ออกสินเชื่อกรุงไทยใจดีมาสำหรับช่วยเอสเอ็มอี วงเงินรวม 10,000 ล้านบาทนั้น เพื่อเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินลงทุนในกิจการของผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ประมาณ 500 ราย สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าหลักเกณฑ์และมาก่อนก็จะมีสิทธิ์ก่อน และมีความมั่นใจว่าสินเชื่อดังกล่าวจะสามารถปล่อยได้หมดภายในสิ้นปีนี้ แต่ถ้าหากความต้องการสินเชื่อมีเพิ่มขึ้น ทางธนาคารก็พร้อมที่จะขยายวงเงินเฟส 2 แต่ไม่ใช่ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ