หากใครเคยเจอเหตุการณ์สมุดบัญชีหาย แถมบัตรเอทีเอ็มก็มาหล่นหายไปอีก ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้หายพร้อมกัน หรือจะหายพร้อมกันก็ตาม เชื่อได้เลยว่าหากคุณมีเงินอยู่ในบัญชีมากพอก็คงจะทำให้หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแน่ๆ ส่วนใครที่มีเงินในบัญชีน้อยอาจจะไม่รู้สึกเสียดายมาก คิดซะว่าจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มละกัน ว่างๆ ก็ค่อยไปทำใหม่ หรือเปิดบัญชีใหม่ซะเลย ซึ่งความจริงแล้วการจะปิด เปิดบัญชีใหม่ในกรณีของสมุดบัญชีหายนี้ อาจจะไม่เหมือนกับการทำบัญชีใหม่จากการสูญหายหรอกนะ เพราะขั้นตอนจะต้องแตกต่างกันในบางส่วนแน่นอน ส่วนเอทีเอ็มนั้นใครที่ทำหล่นหาย ให้รีบโทรไปอายัดบัตรทันที หรือไปยังธนาคารเจ้าของบัตรเอทีเอ็มที่คุณเปิดบัญชีไว้ก็ได้
เมื่อสมุดบัญชีธนาคารหาย ทำไงดี?
สมุดบัญชีธนาคาร มีหน้าที่หลักก็คือ เอาไว้เตือนว่าเงินในบัญชีของคุณมีเหลือ หรือไม่มีเหลือเท่านั้น ซึ่งหากใครที่ทำบัตรเอทีเอ็มหาย แต่บัญชีธนาคารยังอยู่ก็สามารถนำหลักฐานที่ทางราชการออกให้เพื่อแสดงหรือยืนยันความเป็นตัวคุณ มาจัดการถอนหรือฝากเงินได้ตามปกติ แต่หากคุณทำสมุดบัญชีธนาคารหาย ก็ให้ไปแจ้งความว่าสมุดบัญชีหาย แล้วก็เอาใบแจ้งความไปที่ธนาคาร เพื่อให้เค้าออกให้ใหม่ อย่าลืมยื่นหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, ใบแจ้งความ, สำเนาทะเบียนบ้าน กับเงินค่าสมุดใหม่เตรียมไปด้วย หรือจะโทรถามธนาคารสาขาที่ทำโดยตรงเลยก็ได้
เมื่อ ATM หาย สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก
ส่วนเอทีเอ็ม มีไว้สำหรับเป็นบัตรกดเงินสดหรือบัตรเดบิตที่ใช้จ่ายแทนเงินสดเวลาซื้อสินค้า หากคุณทำบัญชีธนาคารหายและยังไม่ได้ไปทำใหม่ แต่ก็ยังคงสามารถใช้บัตรเอทีเอ็มในการกดเงินได้ตามปกติ แต่หากเมื่อใดที่บัตรเอทีเอ็มหายให้รีบแจ้งอายัดกับธนาคารไว้ก่อน ซึ่งหลังซองที่ใส่บัตรเอทีเอ็มส่วนใหญ่จะมี call center ซึ่งคุณสามารถใช้บริการได้ทันที และระบบจะทำการตัดการใช้งานของบัตรอัตโนมัติ หากใครเก็บได้แล้วลองนำไปกดก็จะไม่สามารถใช้งานได้ แล้วค่อยหาเวลาว่างมาทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ โดยเสียค่าธรรมเนียมในการทำบัตรใหม่หนึ่งร้อยบาท ซึ่งสามารถเลือกทำบัตรเอทีเอ็มที่ธนา คารเดิม แต่สาขาไหนก็ได้ หรือจะลองปรึกษาพนักงานธนาคารใกล้บ้านก็ได้
อ่านเพิ่มเติม : รวมข้อมูลค่าธรรมเนียม บัตรATM บัตรเดบิต ทุกธนาคาร 2559
เมื่อทำบัตรเอทีเอ็ม และบัญชีธนาคารหาย ทำไงดี อยากจะถอนตังค์อ่ะ??
หากทำบัตร ATM หาย ไม่ต้องแจ้งความแค่โทรไปอายัดบัตรใบเก่า เจ้าหน้าที่จะถามข้อมูลให้รู้ว่าเป็นคุณจริงๆ ที่มาแจ้งเอง และสามารถทำที่ธนาคารที่คุณเปิดบัญชี จะทำที่สาขาไหนก็ได้ แต่จะเสียแค่ค่าทำบัตรใหม่ประมาณ 100 บาท และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี ในกรณีที่พึ่งเสียค่าธรรมเนียมไปแบบไม่เกิน 6 เดือน หากสมุดบัญชีธนาคารหายก็ให้ไปแจ้งความที่สน.ใกล้บ้าน ไปที่โต๊ะแจ้งเอกสารหาย บอกคุณตำรวจว่าสมุดบัญชีหาย ของธนาคารไหน สาขาอะไร อาจเสียค่าธรรมเนียมแจ้งเอกสารหายประมาณ 10-20 บาท แล้วก็จะได้ใบแจ้งความ และให้ไปที่สาขาเจ้าของบัญชี ที่ๆ คุณเปิดบัญชีครั้งแรก ยื่นหลักฐานคือ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ใบแจ้งความ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้กรอกข้อมูลต่างๆ เป็นอันเสร็จเรื่องบัญชีธนาคาร โดยทางธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมสมุดใหม่ 50 หรือ 100 บาทแล้วแต่ธนาคาร ซึ่งจะว่าไปตามปกติแล้ว มีบัตรประชาชนก็สามารถยืนยันตัวตนได้แล้วแม้บางทางธนาคารจะสามารถทำให้ได้ เพียงแต่ว่าป้องกันการสวมรอยคนร้ายที่อาจจะทำสิ่งที่จะทำให้เงินในบัญชีคุณสูญหายดีกว่า ทางที่ดีหลักฐานดังกล่าวควรนำมายืนยันดีที่สุด ส่วน ATM ก็ทำใหม่ได้ทันที ซึ่งยิ่งหากทำหายพร้อมกันทั้งสองอย่างนี้ด้วยแล้ว อาจทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินของคุณลำบาก ซึ่งอย่างที่บอกคือ ให้รีบทำการอายัดบัตรเอทีเอ็มให้เร็วที่สุด และหากต้องการถอนตังค์จริงๆ ก็ต้องรีบดำเนินการตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะหากไม่มีทั้งบัตรเอทีเอ็ม หรือบัญชีธนาคาร
หากถามว่าต้องการใช้เงิน ณ ตอนนั้น สามารถทำได้หรือไม่ ถอนได้ไหมธนาคารจะยอมไหม หากคุณมีบัตรประชาชนยืนยันที่เป็นตัวตนของคุณจริงๆ ก็สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้สบายใจแบบชิลๆ โดยที่ไม่ต้องมีสมุดบัญชีธนาคารด้วยซ้ำ มีหลายคนที่มักจะใช้วิธีถอนเงินด้วยบัตรประชาชน หรือใบขับขี่เพียงใบเดียว แล้วกรอกข้อมูลถอนเงินโดยบอกพนักงานว่าลืมเอาสมุดฝากมา และลืมเอทีเอ็มไว้ที่บ้าน แม้จะจำเลขบัญชีไม่ได้แต่ทางธนาคารจะมีข้อมูลของคุณอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องซักประวัติมากมาย ยิ่งไม่มีการมอบฉันทะ ยิ่งอาจไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากที่คุณดำเนินการถอนเงินออกมาใช้แล้ว ก็อย่าลืมรีบไปทำสมุดบัญชีใหม่ และเอทีเอ็มใหม่เพื่อความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังป้องกันเงินในบัญชีที่อาจจะถูกผู้ที่เก็บได้ นำไปหาทางเอาเงินออกจากบัญชีคุณ ทางที่ดีไม่ควรประมาทและควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ปกติแล้วการเบิกเงินจากบัญชีของตนเอง เจ้าของบัญชีจะต้องใช้บัตรประชาชนควบคู่กับสมุดเงินฝาก หากมีการมอบฉันทะให้ผู้อื่น มาเบิกเงินแทนก็จะต้องมีการเซ็นมอบอำนาจจากเจ้าของบัญชีก่อน โดยใช้แบบฟอร์มของธนาคารพร้อมกับบัตรประชา ชนของเจ้าของบัญชีและบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจจึงจะสามารถทำการเบิกเงินออกจากธนาคารได้ และไม่ตองกลัวว่า หากคนที่เก็บสมุดบัญชีได้จะเอาเงินของคุณไปถอน เพราะอย่าลืมว่าบัญชีเป็นชื่อคุณ แต่คนที่เก็บได้เป็นคนละคน ก็ไม่สามารถถอนได้อย่างแน่นอน เพราะจะต้องแสดงตัวตนด้วยการโชว์บัตรประชาชน พร้อมลายเซ็น ที่อยู่หลังสมุดบัญชี
