เมื่อราคาน้ำมันของตลาดโลกมีความผันผวน การใช้ความผันผวนของราคาน้ำมันสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนของเราก็น่าจะดีอยู่ไม่ใช่น้อย คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักตราสารอนุพันธ์อีกประเภทหนึ่ง ที่อ้างอิงราคาซื้อขายน้ำมันดิบในตลาดโลก นั่นก็คือ Oil Futures
Oil Futures คือ สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เป็นตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงราคาของน้ำมันดิบ Brent โดยการซื้อขาย ลงทุน Oil Futures นั้น ผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการตกลงราคาน้ำมันดิบในอนาคต ผ่านวิธีการส่งคำสั่งเสนอซื้อ (Bid) และเสนอขาย (Offer) ผ่านโบรกเกอร์ซึ่งก็จะคล้ายกับการซื้อขายหุ้นนั่นเอง
แต่ที่แตกต่างจากการซื้อขายหุ้น คือ การซื้อขาย Oil Futures ไม่มีการส่งมอบน้ำมันดิบกันจริงๆ แต่จะใช้วิธีชำระเงินตามส่วนต่างของกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น โดยผู้ซื้อ (Long) จะได้กำไรเมื่อราคา Oil Futures ปรับตัวสูงขึ้น แต่จะขาดทุนเมื่อราคา Oil Futures ปรับตัวลดลง แต่ในทางกลับกัน ผู้ขาย (Short) จะได้กำไรเมื่อราคา Oil Futures ปรับตัวลดลง แต่จะขาดทุนเมื่อราคา Oil Futures ปรับตัวสูงขึ้น
การซื้อขาย Oil Futures
ส่วนการซื้อขาย Oil Futures นั้น เราเพียงแต่ระบุว่าต้องการซื้อขายสัญญาที่จะครบกำหนดอายุเมื่อไร และที่ราคาเท่าไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องระบุลักษณะอื่นๆ ของสัญญา เพราะ TFEX ได้มีการกำหนดลักษณะของสัญญาให้เป็นมาตรฐานแล้ว และเนื่องจากการซื้อขาย Oil Futures นั้นอ้างอิงจากราคาตลาดโลกจึงทำให้สามารถซื้อขายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ เช้า (9.45-12.30 น.) ช่วงบ่าย (14.30-16.55 น.) และช่วงกลางคืน (19.30-22.30 น.)
ราคาเสนอซื้อขายของ Oil Futures
สำหรับราคาเสนอซื้อขายของ Oil Futures นั้นจะเป็นราคาน้ำมันดิบ 1 บาร์เรลในรูปเงินบาท เช่น หากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในอีก 1 เดือนข้างหน้าจะปรับไปอยู่ที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และคาดว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เราก็สามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายที่ราคา 4,400 บาทต่อบาร์เรล (110 x 40) โดยราคาเสนอซื้อและเสนอขายจะมีช่วงห่างการเปลี่ยนแปลงของราคาขั้นต่ำเท่ากับ 1 บาท เช่น 4,101 4,402 และ 4,403 บาท เป็นต้น
Oil Futures ก็เหมือนกับตราสารอนุพันธ์อื่นๆ คือ ซื้อขายง่าย คล่องตัว และเงินลงทุนน้อย เนื่องจากการซื้อขาย Oil Futures คือ การทำสัญญาจะซื้อจะขาย ยังไม่มีการซื้อขายน้ำมันดิบจริง ดังนั้นเราก็ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มมูลค่าสัญญา เพียงแค่วางเงินหลักประกันก่อนเริ่มต้นซื้อขาย หรือที่เรียกว่า เงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าของเงินแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น ดังนั้นเงินกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการซื้อขายฟิวเจอร์สจึงคิดเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนตั้งต้น และที่บอกว่าซื้อขายง่ายคล่องตัว นั่นก็เพราะว่าเราสามารถทำการซื้อหรือขายได้ตลอดเวลาตามที่ตลาดเปิดโดยผ่านโบรกเกอร์ที่เราเปิดบัญชีไว้นั่นเอง
โอกาสทำกำไรจาก Oil Futures
ส่วนโอกาสทำกำไรจาก Oil Futures นั่นสามารถทำได้ทั้งราคาน้ำมันขึ้นและราคาน้ำมันดิบลง โดยเราจะต้องวิเคราะห์และสามารถคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบให้เป็น กลยุทธ์ง่ายๆ ก็คือ หากเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น ก็ให้ใช้หลักว่า “ซื้อก่อนขายทีหลัง” เพราะราคาจะเป็นไปตามการซื้อขายน้ำมันตามปกติ เพราะถ้าหากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจริง ผู้ซื้อก็จะได้กำไรตามส่วนต่างของราคาที่เพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันหากเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลง ก็ให้ใช้หลัก “ขายก่อน ซื้อกลับทีหลัง” เพราะถ้าหากราคาน้ำมันลงจริง ผู้ขายก็จะได้กำไรตามส่วนต่างของราคาที่ลดลง
ที่สำคัญของ Oil Futures ก็คือ เราสามารถปิดสัญญาได้ก่อนที่จะถึงวันครบกำหนดสัญญา โดยปกติแล้ว Oil Futures จะมีอายุสัญญา 3 เดือน แต่ถ้าหากเราเห็นว่าราคาของ Oil Futures ที่เรามีอยู่ในพอร์ตมีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้เราได้รับกำไรในระดับที่พอใจแล้ว หรือมีผลขาดทุนเกิดขึ้นจนถึงระดับที่ยอมรับได้แล้ว เราก็สามารถปิดสัญญาได้ทันที เช่น ถ้าเราซื้อ Oil Futures ที่ครบอายุสัญญาในเดือนมกราคม 2559 แต่เราอยากปิดสัญญาแล้ว เราก็เพียงแต่ขาย Oil Futures ที่จะครบอายุสัญญาในเดือนมกราคม 2559 ออกไป ซึ่งสิ่งที่เราต้องระวัง คือ จะปิดสัญญา Oil Futures ตัวไหนออกไปต้องดูเดือนที่ครบสัญญาให้ตรงกัน ไม่เช่นนั้นแทนที่จะเป็นการปิดสัญญา อาจเป็นการเพิ่มสัญญาแทนก็ได้
อ่านเพิ่มเติม >> มารู้จักการ ลงทุน Gold Future กันบ้างดีกว่า <<
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตามสิ่งสำคัญที่เราต้องมี คือ ติดตามข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของเรา เพื่อที่เราจะสามารถประเมินแนวโน้มทิศทางราคาและทบทวนกลยุทธ์การลงทุนของเราว่ายังเหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่