
ลูกเบื่ออาหารทำอย่างไรดี
ปัจจุบันลูกชายของผู้เขียนอายุ 1 ปี 5 เดือน มีความเบื่ออาหารที่แม่ทำอย่างมาก อาหารที่ทำเองที่บ้านส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำง่าย ๆ เช่น ข้าวต้มใส่ปลาแซลมอน ใส่ไข่ใส่ผัก พอป้อนไปได้ 5 คำก็เกิดอาการเบือนหน้าหนี แต่พอพาไปกินข้าวนอกบ้าน ได้กินข้าว เสต็กปลากระพง ปลาแซลมอน หรือ ไข่ตุ๋นเขาก็จะกินอย่างรวดเร็ว สันนิษฐานว่าเป็นเพราะรสชาติอาหารมีความเข้มข้น จากน้ำซุปที่มีรสชาติเค็มหอม จุดนี้ต้องระวังไม่ให้กินเยอะเกินไป

วิธีช่วยลดความขัดแย้งระหว่างครอบครัว เลี้ยงเด็กคนละทฤษฎี
การเลี้ยงเด็กในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกันกับแต่ก่อนเนื่องด้วยบริบททางสภาพแวดล้อม และโลกที่เปลี่ยนไป ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นสมัยก่อนปู่ย่าตายายมักจะให้กินอาหารหรือป้อนกล้วยได้เมื่ออายุ 3 เดือน แต่ในปัจจุบันต้องรอให้ครบ 6 เดือนถึงจะกินอาหารหรือกล้วยได้ ต้องรอให้กระเพาะเด็กพร้อมก่อน ต้องกินนมแม่ล้วนเป็นระยะเวลา 6 เดือนเป็นต้น

เราควรบอกเรื่องสถานะการเงินของครอบครัวให้ลูกรู้หรือไม่ ?
ทั้งสองกระทู้นี้มีผู้เข้ามาตอบและให้ความเห็นอย่างมากมาย แต่คำตอบค่อนข้างไปในแนวทางเดียวกันว่า ลูกควรต้องรู้ฐานะและการเงินของที่บ้าน เพราะการเป็นครอบครัวเดียวกันก็เหมือนกับลงเรือลำเดียวกัน แม้ว่าพ่อแม่ทุกคนจะรักลูกมากและต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่แล้ว หลายครอบครัวคิดว่าไม่อยากให้ลูกต้องกังวล อยากให้โฟกัสไปที่เรื่องเรียนอย่างเดียว

ให้เงินลูกไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย เท่าไรจึงจะเหมาะสม ?
ค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่สำคัญสำหรับลูก ๆ ก็คือ ค่าขนม ค่าอาหาร เวลาไปโรงเรียนหรือไปมหาวิทยาลัย (ในกรณีที่ลูกยังไม่ได้หาเงินเอง) แน่นอนว่า การปล่อยให้ลูกอด ๆ อยาก ๆ ให้เงินค่าขนมลูกไปแบบไม่เท่าไร จนไม่สามารถซื้ออาหาร ซื้อขนมรับประทานได้ คงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร แต่การให้เงินค่าขนมลูกมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้ลูกรู้จักการใช้เงินไวเกินไป

วิธีการรับมือกับลูกน้อยที่งอแงเวลาอยู่นอกบ้าน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนให้นั่งโต๊ะนานมากขึ้นโดยอาจจะให้จับของเล่น หรือจับช้อนอีกคันขณะกินข้าว แล้วเล่นป้อนข้าวแม่กลับมา อีกอย่างคือการทำความเข้าใจเด็ก การที่เด็กร้องกรี๊ดหรือตะโกน เป็นเพราะไม่มีใครเข้าใจความต้องการของเขา เขายังไม่สามารถสื่อสารกลับมายังเราได้จึงใช้วิธีที่เขาทำได้คือการร้องไห้ กรี๊ด หรือตะโกน

แชร์ประสบการณ์ค่าใช้จ่ายหลักแสน เมื่อลูกต้องเข้าโรงพยาบาล
ตามกระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/32483024 เจ้าของกระทู้ที่ใช้ล็อคอินว่า Sherlockoam ได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ลูกวัย 1 ขวบ 9 เดือน แอดมิดนอนโรงพยาบาลเพราะไข้สูงเป็นเวลา 11 วัน ผลการตรวจจากโรงพยาบาลปรากฏว่าติดเชื้อไวรัส RSV เมื่อคิดรวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 196,714 บาท ดูไม่ผิดค่ะ เกือบสองแสนบาท

วางแผนการเงินอย่างไรให้ชีวิตหลังแต่งงานไม่มีปัญหา
การใช้ชีวิตคู่หรือการแต่งงานถือว่าเป็นความใฝ่ฝันของชายหญิงแทบจะทุกคน เพราะคนเราเกิดมาไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว การมีคู่ชีวิตหรือคู่ครองนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมชาติเป็นสัจธรรมของโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นไปตามครรลอง ทว่าการใช้ชีวิตคู่นั้นไม่ได้หมายความว่านี่คือจุดสูงสุดหรือจุดที่ประสบความสำเร็จในชีวิต หลาย ๆ คนมองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มใช้ชีวิตคู่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่แท้จริงเท่านั้น ยังจะต้องมีการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ กันอีกมากมายกว่าชีวิตจะลงตัว

วิธีให้ลูกพูดเร็วและได้ประสิทธิภาพ ฉบับประหยัดกระเป๋าเงินคุณแม่
หลายคนคงเคยได้ยินว่าลูกสาวจะพูดเร็วกว่าลูกชาย ส่วนตัวของผู้เขียนเองนั้นมีลูกชายก็มีความกังวลเช่นกัน ปัจจุบันลูกชายอายุได้ 1 ขวบ 3 เดือน สามารถจดจำบุคคลได้ว่าคนนี้คือแม่ พ่อ อาม่า (คุณยาย) คุณตา และชี้ได้ถูกคน จะมีเพียงคำพูดสั้น ๆ ที่พูดได้คือ ปะป๊า (ส่วนคำว่าหม่าม๊านั้นจะพูดตอนที่เขาโมโหเท่านั้น) ส่วนคำยาก ๆ ยังพูดไม่ได้

เคล็ดลับบ้าน ๆ ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สำหรับประสบการณ์ของผู้เขียนแล้วการให้นมแม่เป็นสิ่งที่ประทับใจที่สุดในชีวิต ลูกของเราได้รับนมแม่จนถึงอายุ 8 เดือน แต่ในหลาย ๆ คนก็สามารถให้ได้จนเกิน 1 ขวบไปก็มี อาจจะเป็นเพราะผู้เขียนในช่วงนั้นเลี้ยงลูกเองพอเขาเริ่มคลานเริ่มเกาะยืนต้องวิ่งไล่จับ วินัยการปั๊มนมจึงเริ่มถดถอย

วัคซีนสำหรับเด็ก ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของคุณพ่อคุณแม่
หลังจากที่ลูกน้อยเกิดมาค่าใช้จ่ายตามตัวที่นอกจากค่ากินค่าอยู่นั่นก็คือ ค่าฉีดวัคซีน นั่นเอง วัคซีนนั้นมีความจำเป็นเนื่องจากป้องกันโรคร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่เมื่อเด็กเกิดมาในแพ็คเกจการคลอดจะมีรวมวัคซีนบีซีจี (BCG) ที่ต้นแขนด้านซ้าย